สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ผู้แทนเจรจาการค้าของสหรัฐบางคนได้แสดงความกังวลว่า จีนกำลังบ่ายเบี่ยงที่จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องทางการค้าของสหรัฐ แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้า ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในการลงเลือกตั้งอีกสมัย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่จีนได้เปลี่ยนจุดยืน เพราะหลังจากที่จีนยอมทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแล้วนั้น จีนก็ไม่ได้รับการรับประกันจากรัฐบาลสหรัฐว่า จะยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจีน
รายงานระบุว่า จีนได้ถอนคำมั่นสัญญาเบื้องต้นเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลด้านเวชภัณฑ์ อีกทั้งไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการปรับปรุงการเชื่อมโยงสิทธิบัตร และปฏิเสธที่จะให้ความสำคัญกับประเด็นการบริการข้อมูล นอกจากนี้ จีนกำลังพยายามที่จะใช้ถ้อยคำที่จะทำให้มั่นใจว่ากฎเกณฑ์ในข้อตกลงการค้านั้น จะต้องสอดคล้องกับกฎหมายของจีน
-- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า คณะเจรจาการค้าของสหรัฐและจีนเตรียมจัดการเจรจารอบใหม่ในสัปดาห์หน้า เพือหาทางยุติความขัดแย้งทางการค้า
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ จะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้าเพื่อเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ขณะที่นายหลิว เหอ และคณะจะเดินทางมายังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์แรกของเดือนเม.ย.เพื่อหารือกับคณะเจรจาการค้าของสหรัฐ
-- รัฐบาลเยอรมนีเริ่มทำการประมูลคลื่นความถี่ 5G เมื่อวานี้ โดยคาดว่ารัฐบาลจะมีรายได้จากการประมูล 3-5 พันล้านยูโร (3.4-5.7 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งรัฐบาลจะนำรายได้ดังกล่าวไปลงทุนในระบบดิจิทัล และพัฒนาโครงสร้างระบบดิจิทัลของโรงเรียนในประเทศ โดยเครือข่ายโทรคมนาคมรายใหญ่ของเยอรมนีต่างเข้าร่วมการประมูลโครงการ 5G ในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดอยซ์ เทเลคอม, โวดาโฟน และเทเลโฟนิกา
-- ทำเนียบรัฐบาลอังกฤษยืนยันว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะส่งจดหมายถึงนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานสภายุโรปในวันนี้ เพื่อขอขยายเวลาการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จากกำหนดเส้นตายในวันที่ 29 มี.ค.นี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ จะพบปะกับผู้นำ 27 ชาติสมาชิกของ EU ในการประชุมซัมมิต EU ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้
-- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า EU มีแนวโน้มที่จะแจ้งให้นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษทราบว่า เธอจะต้องตัดสินใจภายในกลางเดือนเม.ย.นี้ว่า อังกฤษจะขยายกำหนดเวลาการถอนตัวออกจาก EU (Brexit) ไปจนถึงปี 2563 หรือจะเสี่ยงออกจาก EU ในอีก 3 เดือนข้างหน้าโดยไม่มีข้อตกลง
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำ EU ที่กรุงบรัสเซลส์ในวันพรุ่งนี้ บรรดาผู้นำ EU มีแนวโน้มที่จะยื่นคำขาดในการให้เวลานางเมย์เพียง 3 สัปดาห์เพื่อตัดสินใจว่า นางเมย์จะเสี่ยงกับการขออนุมัติข้อตกลง Brexit ฉบับปัจจุบันจากรัฐสภาอังกฤษให้ได้ภายในเดือนก.ค.นี้หรือไม่
-- นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือประมาณ 01.00 น.ตามเวลาไทยในวันพรุ่งนี้
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโบายการเงินของเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนม.ค. และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในการประชุมปีที่แล้ว
-- ชาวแอลจีเรียจำนวนหลายหมื่นคนได้ทำการชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีอับเดลาซิส บูเตฟลิกาเมื่อวานนี้ นับเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากที่เขาได้ปกครองประเทศมานาน 20 ปี
ปธน.บูเตฟลิกาได้ยอมอ่อนข้อต่อกลุ่มผู้ประท้วง ด้วยการประกาศว่าเขาจะไม่ลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 4 ในวันที่ 18 เม.ย. แต่เขาจะดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
-- ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. ของเกาหลีใต้และเยอรมนี รายงานการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ของอังกฤษ
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.พ. ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย