World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 27 มีนาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 27, 2019 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 140.90 จุดเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

-- ตลาดการเงินยังคงติดตามสถานการณ์ที่อังกฤษแยกตัวจากสภาพยุโรป (Brexit) อย่างใกล้ชิด โดยรายงานล่าสุดระบุว่า รัฐบาลอังกฤษเตรียมเสนอให้มีการลงมติเรื่องข้อตกลง Brexit ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ หลังจากที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้สูญเสียการควบคุมกระบวน Brexit ให้กับรัฐสภาอังกฤษ และยอมรับว่าเธอไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะทำให้รัฐสภาอังกฤษอนุมัติข้อตกลง Brexit ของเธอที่ทำไว้กับสหภาพยุโรป

-- นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ โดยคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ ซึ่งนำโดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งของจีนในวันที่ 28-29 มี.ค.นี้ เพื่อเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน โดยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าภายในสิ้นเดือนเม.ย.

-- นายโรเบิร์ต พาลาดิโน รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้ออกแถลงการณ์ในนามของรัฐบาลสหรัฐว่า รัฐบาลสหรัฐขอแสดงความยินดีกับประชาชนชาวไทยที่ได้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ชาวไทยสนับสนุนให้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ สื่อต่างๆได้รายงานข่าวเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งและการอภิปรายอย่างเปิดกว้าง ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกที่ไทยจะกลับมามีรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง อันสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนชาวไทย

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐขอยืนเคียงข้างชาวไทยในการเรียกร้องให้มีการประกาศผลการเลือกตั้ง และให้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับรายงานความผิดปกติที่เกิดขึ้นในทุกกรณีอย่างเสรีและโปร่งใส

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมของจีนช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ร่วงลง 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี

-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไม่สามารถล้มล้างการใช้สิทธิ์ยับยั้งหรือวีโต้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปธน.ทรัมป์ได้ใช้สิทธิ์ดังกล่าวคัดค้านมติของรัฐสภาสหรัฐที่จะขัดขวางการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของเขาซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อหางบสร้างกำแพงกั้นชายแดนภาคใต้ของสหรัฐที่ติดกับเม็กซิโก

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ทำการลงมติด้วยคะแนนเสียง 248 ต่อ 181 เสียง เพื่อสนับสนุนการล้มล้างสิทธิ์วีโต้ของปธน.ทรัมป์ แต่การลงมติดังกล่าวได้คะแนนไม่ถึง 2 ใน 3 ของเสียงส่วนใหญ่ที่จำเป็นต่อการล้มล้างสิทธิ์วีโต้ดังกล่าว

ปธน.ทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเมื่อเดือนที่ผ่านมาเพื่อหาเงินสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก โดยจะโยกเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากโครงการก่อสร้างทางทหารไปใช้ในการสร้างกำแพงซึ่งเขาได้สัญญาไว้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลงสวนทางคาดการณ์ในเดือนก.พ. โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของการก่อสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยว

ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านร่วงลง 8.7% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.162 ล้านยูนิต แตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะอยู่ที่ 1.21 ล้านยูนิตในเดือนก.พ.

เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 9.9% ในเดือนก.พ.

-- ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 124.1 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 131.4 ในเดือนก.พ.และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 133

ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน

ผลสำรวจพบว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากภาวะผันผวนในตลาด รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และสถานการณ์ชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อยาวนานในช่วงต้นปี

-- ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนม.ค. เทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 4.6% ของเดือนธ.ค.

ข้อมูลล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นว่า อุปสงค์ในตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐยังคงอ่อนแรง แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการจำนองจะลดลง

ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือนม.ค. ลดลงจากระดับ 4.1% ของเดือนธ.ค.

ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองลาสเวกัส, ฟีนิกซ์ และมินนีแอโพลิส

-- นายซาเอบ เอเรคัท เลขาธิการองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO) เผยการให้การรับรองธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงโกลันโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐนั้น ไม่ได้นำมาซึ่งสิทธิหรือความมุ่งมั่นแต่อย่างใด

นายเอเรคัทกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า การตัดสินใจของสหรัฐถือเป็นการปูทางให้กับช่วงเวลาแห่งการอยู่เหนือกฎหมายสากล เนื่องจากการตัดสินใจดังกล่าวได้เข้ามาแทนที่หลักการของการทำผิดกฎหมายด้วยการครอบครองดินแดนโดยใช้กำลัง และยังเปลี่ยนโฉมของพลังแห่งตรรกะและกฎหมายให้กลายเป็นพลังแห่งอำนาจและความอยุติธรรม

เจ้าหน้าที่ของปาเลสไตน์ยังได้ผลักดันให้นานาประเทศเผชิญหน้ากับนโยบายเหล่านี้ และลงมือดำเนินการก่อนที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปสู่กฎหมายแห่งป่าดงพงไพร

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของฝรั่งเศส ดุลการค้าเดือนม.ค.และดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2561 ของสหรัฐ รวมถึงสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมี.ค. อังกฤษเตรียมเปิดเผยราคาบ้านเดือนมี.ค.จากเนชั่นไวด์ ขณะที่อียูเตรียมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561, กำไรภาคธุรกิจไตรมาส 4/2561, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ. และเยอรมนี เตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ