World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 11 เมษายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 11, 2019 09:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรปเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อคืนนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ผู้นำประเทศสมาชิก 27 ชาติของสหภาพยุโรป (EU) ได้เห็นชอบให้อังกฤษขยายเวลาการถอนตัวออกจาก EU (Brexit) ไปเป็นวันที่ 31 ต.ค. ซึ่งนานกว่าที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ยื่นขอต่อ EU ก่อนหน้านี้ว่าให้เลื่อนเวลา Brexit เป็น 30 มิ.ย.

-- นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย หลังจากผู้นำ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ได้เห็นชอบให้อังกฤษขยายเวลาการถอนตัวออกจาก EU (Brexit) ไปเป็นวันที่ 31 ต.ค. โดยนางเมย์กล่าวว่า ประชาชนจำนวนมากรู้สึกผิดหวังที่ผู้นำชาติสมาชิก EU ได้เลื่อนเวลา Brexit

นางเมย์กล่าวว่า การผลักดันข้อตกลง Brexit ให้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอังกฤษไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมระบุว่า สถานการณ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าอาจไม่ราบรื่นนัก

-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

นอกจากนี้ ECB ระบุว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างน้อยจนถึงสิ้นปีนี้

นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวว่า ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจยังคงอยู่ในช่วงขาลง โดยข้อมูลทางเศรษฐกิจยังคงบ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแอ และส่งผลกระทบที่ยาวนานต่อประเทศ และภาคธุรกิจบางกลุ่ม ขณะเดียวกันนายดรากียังเปิดเผยว่า ECB กำลังพิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องใช้มาตรการใดหรือไม่เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาคธนาคารจากการที่ ECB กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่ฝากเงินไว้กับ ECB

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 มี.ค. โดยระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดยังคง "ใช้ความอดทน" ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

รายงานการประชุมเฟดซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐระบุว่า เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การเงินทั่วโลก รวมทั้งแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงนั้น กรรมการเฟดจึงมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า คณะกรรมการ FOMC ควรใช้ความอดทนในการพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนกรอบเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ในอนาคต ซึ่งถือเป็นแนวทางอันเหมาะสมที่จะช่วยสนับสนุนผลลัพธ์ต่างๆที่คณะกรรมการต้องการ

นอกจากนี้ กรรมการเฟดส่วนใหญ่ยังส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2562

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.8%

อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 2.0% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว

-- นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เปิดเผยว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงมีความคืบหน้า และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไกในการบังคับใช้ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุ

นายมนูชินกล่าวว่า การหารือกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน เมื่อคืนนี้ เป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายจะทำการเจรจาต่อไปในวันพรุ่งนี้

"เราสามารถตกลงกันเกี่ยวกับกลไกการบังคับใช้ข้อตกลง โดยทั้งสองฝ่ายจะมีการจัดตั้งสำนักงานขึ้นเพื่อดูแลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว" นายมนูชินกล่าว

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยืนกรานเมื่อวานนี้ว่า เขาจะไม่เปิดเผยรายการการเสียภาษีเงินได้ของเขา แม้ว่าสภาคองเกรสเพิ่มแรงกดดันให้เขาเปิดเผยรายละเอียดดังกล่าวก็ตาม

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ชาวอเมริกันไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้ และขณะนี้กรมสรรพากรก็กำลังตรวจสอบแบบแสดงรายการการเสียภาษีเงินได้ของเขาอยู่แล้ว

-- นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้ประกาศจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ หรือในอีก 5 สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากที่ได้เข้าพบเซอร์ปีเตอร์ คอสโกรฟ ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย เพื่อขอให้มีการประกาศยุบสภาเพื่อเตรียมจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของแคมเปญหาเสียงเลือกตั้ง ที่คาดว่าจะให้ความสำคัญในเรื่องนโยบายภาษี ค่าจ้าง ไปจนถึงการลดการปล่อยมลพิษ

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี

ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเยอรมนีจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค.

ส่วนพรุ่งนี้ ทางการจีนจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนมี.ค. ขณะที่อียูจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ