World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 14, 2019 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงการคลังของจีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนจะเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.

ทั้งนี้ สินค้าในภาคเกษตรของสหรัฐจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการขึ้นภาษีในครั้งนี้ หลังจากที่ถูกกระทบก่อนหน้านี้จากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายการสินค้าที่จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น รวมถึง ถั่ว น้ำตาล ข้าวสาลี ไก่ และไก่งวง

การที่จีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐเมื่อวานนี้ ถือเป็นการตอบโต้สหรัฐ ซึ่งได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 617.38 จุด หรือ -2.38% เมื่อคืนนี้ หลังจากจีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้ดำเนินการด้านภาษีต่อจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาด และทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับ 2.85 ล้านล้านเยน (ประมาณ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทำสถิติเกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 57

รายงานเบื้องต้นของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า รายได้ปฐมภูมิ (primary income) ซึ่งสะท้อนถึงรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศ มียอดเกินดุลอยู่ที่ระดับ 2.06 ล้านล้านเยน

ส่วนในปีงบประมาณ 2561 ซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.ที่ผ่านมานั้น ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 19.41 ล้านล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

-- คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้เปิดเผยแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็น 25% โดยแผนการเรียกเก็บภาษีครั้งล่าสุด รวมกับภาษีที่ได้มีการเรียกเก็บไปแล้วก่อนหน้านี้ จะทำให้สินค้าจีนที่สหรัฐนำเข้านั้น ถูกเรียกเก็บภาษีเกือบทั้งหมด

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ระบุว่า รายการสินค้านำเข้าจากจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่นี้ จะครอบคลุมสินค้า 3,805 รายการ ซึ่งรวมถึงโทรศัพท์มือถือ เช่น iPhone และคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเตือนจีนเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้ครั้งใหญ่ หลังจากจีนประกาศแผนขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐ 2,493 รายการเป็น 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งท้าทายการเตือนของปธน.ทรัมป์เพื่อสกัดกั้นไม่ให้สงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้น ปธน.ทรัมป์คาดว่าจีนจะพยายามมุ่งเป้าโจมตีเกษตรกรสหรัฐ ซึ่งเป็นฐานเสียงสนับสนุนทางการเมืองที่สำคัญของปธน.ทรัมป์ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ความขัดแย้งดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลง

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าววานนี้ว่า เขาจะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ปูนำรัสเซียในการประชุม G20 ในเดือนหน้า ทั้งนี้ การประชุมสุดยอด G20 จะมีขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า การพบปะกับปธน.สี จิ้นผิงจะช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งในการเจรจาการค้ากับจีน

-- ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐและสหภาพยุโรป (EU) เริ่มส่งสัญญาณในด้านลบ โดยนางเซซิเลีย มัลม์สตรอม กรรมาธิการการค้ายุโรปเปิดเผยว่า EU กำลังสรุปรายการสินค้าของสหรัฐที่จะทำการเก็บภาษีตอบโต้ หากปธน.โดนัลด์ ทรัมป์สั่งเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ โดยคาดว่าปธน.ทรัมป์จะทำการตัดสินใจเรื่องดังกล่าวในวันที่ 18 พ.ค.

-- พันธมิตรของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์ มีคะแนนนำในการนับคะแนนขั้นต้นสำหรับการเลือกตั้งวุฒิสภา 24 ที่นั่งเมื่อวานนี้ โดยพันธมิตรของปธน.ดูเตอร์เต 9 คนมีคะแนนนำในกลุ่มผู้สมัครที่มีคะแนนสูงสุด 12 อันดับในการนับคะแนน 0.4%

ด้านผู้บัญชาการตำรวจออสการ์ อัลบายาลเด กล่าวว่า ในการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ ได้เกิดความผิดพลาดของระบบคอมพิวเตอร์หลายร้อยเครื่องและมีผู้ถูกจับกุมตัวหลายสิบคน เนื่องจากต้องสงสัยว่าทำการซื้อเสียง แม้ความรุนแรงลดลงเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งในปี 2559 ก็ตาม

-- หุ้นอูเบอร์ ผู้ให้บริการรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชัน ดิ่งลงเกือบ 11% ปิดที่ระดับ 37.10 ดอลลาร์ ในการซื้อขายวันที่ 2 โดยราคายังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 45 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งเป็นราคาเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO)

นักวิเคราะห์จากบริษัทเว็ดบุช ซีเคียวริตี ระบุว่า นักลงทุนยังคงเทขายหุ้นอูเบอร์ออกมาเนื่องจากไม่แน่ใจเกี่ยวกับตลาดการให้บริการรถโดยสาร ความสามารถของอูเบอร์ในการให้บริการส่งอาหาร และการผลักดันของอูเบอร์ในการใช้รถยนต์ไร้คนขับ

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเยอรมนีเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ขณะที่อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมี.ค. และอียูเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ทางด้านสหรัฐเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยอัตราว่างงานดือนเม.ย. ออสเตรเลียจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากเวสต์แพค จีนจะเปิดเผยข้อมูลการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนเม.ย. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. อียูจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2) ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. สต็อกสินค้าภาคธุรกิจเดือนมี.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ