World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 12 มิถุนายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 12, 2019 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 14.17 จุด หรือ 0.05% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันยาวนานถึง 6 วัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติม

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าวว่า เขาได้ตัดสินใจชะลอการทำข้อตกลงทางการค้ากับจีน และระบุว่า เขาจะไม่ทำข้อตกลง นอกเสียจากว่า จีนจะกลับมาทำตามเงื่อนไขที่ได้เจรจาต่อรองไว้เมื่อต้นปีนี้

ปธน.ทรัมป์แสดงความเห็นดังกล่าว หลังจากที่เขาได้ขู่เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีน หากปธน.สี จิ้นผิงไม่เข้าร่วมประชุมซัมมิตของกลุ่ม G20 ในญี่ปุ่น โดยปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาอาจกำหนดภาษี 25% หรือมากกว่า 25% ต่อสินค้าจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์

-- กลุ่มผู้ประท้วงชาวฮ่องกงจำนวนหลายพันคนได้ปิดกั้นถนนสายหลักใกล้กับอาคารรัฐสภาฮ่องกงในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายที่จะอนุญาตให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีน โดยรัฐสภาฮ่องกงจะอภิปรายร่างกฎหมายดังกล่าวในวันนี้เวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น

ผู้คัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวระบุว่า หากกฎหมายฉบับนี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ก็จะเป็นการริดรอนอิสรภาพของระบบยุติธรรมในฮ่องกง ซึ่งได้รับการรับประกันจากรัฐบาลจีนภายใต้กรอบ"หนึ่งประเทศ สองระบบ"

ขณะที่นายแอนดรูว์ เลียง ประธานรัฐสภาฮ่องกงเปิดเผยว่า รัฐสภาฮ่องกงจะลงมติต่อร่างกฎหมายที่จะอนุญาตให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีน ในวันที่ 20 มิ.ย. แม้ร่างกฎหมายดังกล่าวเผชิญเสียงคัดค้านจากชาวฮ่องกงจำนวนมาก

-- ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในช่วงเช้าวันนี้ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 2.5% และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7%

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 2.5% และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7%

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้น 5.2% ในเดือนเม.ย. แตะที่ระดับ 9.137 แสนล้านเยน หรือประมาณ 8.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร ซึ่งเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นนั้น ขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในเดือนเม.ย. หลังจากที่ปรับตัวขึ้นเพียง 3.8% ในเดือนมี.ค.

-- สำนักงานสถิติของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราการว่างงานยังคงทรงตัวที่ระดับ 4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับเป็นรายปี

ส่วนตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 259,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 27.32 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยการจ้างงานยังคงสูงกว่า 200,000 ตำแหน่งอีกครั้ง

-- นายครีต วิลเลมส์ อดีตที่ปรึกษาทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน แต่สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นในการประชุมสุดยอด G20 ในเดือนนี้

"จะไม่มีการทำข้อตกลงในการประชุม G20 แต่ G20 จะช่วยกระตุ้นให้มีการทำข้อตกลงกับจีน" นายวิลเลมส์กล่าว

นายวิลเลมส์คาดการณ์ว่า สหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนภายในกรอบเวลา 3-6 เดือน

นอกจากนี้ เขายังระบุว่า การบรรลุข้อตกลงระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกในสัปดาห์ที่แล้วถือเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อการเจรจาการค้ากับจีน

-- คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ปฏิเสธที่จะให้การอนุมัติต่อแผนการควบกิจการระหว่างบริษัท ทาทา สตีลจากอินเดีย และบริษัท ธิสเซ่นครุปป์ จากเยอรมนี

EC ระบุว่า การควบกิจการระหว่างบริษัททั้งสองจะเป็นการลดการแข่งขันในตลาด และจะทำให้เหล็กมีราคาแพงขึ้น

EC แถลงว่า มาตรการเยียวยาที่เสนอโดยบริษัท ทาทา สตีล และธิสเซ่นครุปป์ ไม่เพียงพอที่จะชดเชยความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันในตลาด และจะไม่สามารถป้องกันราคาที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ทำให้ผู้ซื้อเหล็กมีทางเลือกลดน้อยลง

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ โดยสหรัฐเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เยอรมนีเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. อียูเตรียมเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมถึงราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ