ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.50% จากระดับ 1.75% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น หลังจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทการค้าที่ยืดเยื้อ
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายในวันนี้ มีขึ้นหลังจากยอดส่งออกของเกาหลีใต้ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเวลา 7 เดือน และมีแนวโน้มที่จะลดลงอีกในอนาคต เนื่องจากญี่ปุ่นได้ออกมาตรการควบคุมการส่งออกเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์และชิปประมวลผลไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเกาหลีใต้เนื่องจากเซมิคอนดักเตอร์และชิปประมวลผลต่างก็เป็นสินค้าส่งออกหลักของเกาหลีใต้
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 115.78 จุด หรือ 0.42% เมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มขนส่ง หลังจากบริษัทซีเอสเอ็กซ์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางรถไฟรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ อันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ "Beige Book" ซึ่งระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า
-- นายจาวาด ซาริฟ รมว.ต่างประเทศอิหร่าน ออกมากล่าวว่า สหรัฐ "ทำตัวเองเดือดร้อน" ด้วยการถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ขณะเดียวกันอิหร่านยังมีความหวังว่าจะเปิดการเจรจากับคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากนี้ นายซาริฟยังได้วิพากษ์วิจารณ์ยุโรปที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดภายใต้ข้อตกลง และย้ำว่าอิหร่านไม่ได้ต้องการผลิตอาวุธนิวเคลียร์
-- รายงานระบุว่า ฐานลูกค้าของเน็ตฟลิกซ์ในสหรัฐปรับตัวลง ขณะที่จำนวนลูกค้าทั่วโลกอยู่ที่ 2.7 ล้านรายในไตรมาสที่ 2 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5 ล้านราย โดยได้รับแรงกดดันจากการค่าบริการที่เพิ่มขึ้น และจำนวนซีรีย์เรื่องใหม่ที่น้อยลง
ทั้งนี้ หุ้นของเน็ตฟลิกซ์ร่วงลงกว่า 11% ในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกช่วงเช้านี้
-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าที่ระดับ 5.895 แสนล้านเยน หรือประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมิ.ย.
รายงานระบุว่า ยอดส่งออกเดือนมิ.ย.ลดลง 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 5.2%
ส่วนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ามูลค่า 8.888 แสนล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจขยายตัวเล็กน้อยในช่วงกลางเดือนพ.ค.จนถึงต้นเดือนก.ค. โดยผู้บริโภคยังคงจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก แม้ภาคธุรกิจมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากข้อพิพาทการค้า
รายงานระบุว่า การจ้างงานยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว ซึ่งหมายความว่านายจ้างยังมีแนวโน้มที่จะจ้างงานเพิ่มขึ้น
-- บริษัทโบอิ้งแถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทจะนำเงิน 50 ล้านดอลลาร์ หรือครึ่งหนึ่งจากกองทุนวงเงิน 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปชดเชย และเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX ประสบอุบัติเหตุตกในอินโดนีเซียในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว และในเอธิโอเปียเมื่อเดือนมี.ค.ปีนี้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 คน
โบอิ้งระบุว่า ทางบริษัทได้มอบหมายให้นายเคน ไฟน์เบิร์ก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจ่ายเงินชดเชย มาดูแลเกี่ยวกับการจ่ายเงินเยียวยาในกรณีดังกล่าว
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) มีการขยายตัว 2.0% ในเดือนมิ.ย. หลังจากดีดตัวขึ้น 2.0% เช่นกันในเดือนพ.ค.
ดัชนี CPI มีการขยายตัว 2.0% สอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่ระดับ 2%
ONS ระบุว่า ราคาอาหาร และเสื้อผ้าปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. ขณะที่ราคาพลังงานอ่อนตัวลง
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า อัตราว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับ 5.2% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่ตัวเลขจ้างงานในเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้นเพียง 500 ตำแหน่ง สู่ระดับ 12.87 ล้านตำแหน่ง
รายงานของ ABS ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานแบบเต็มเวลา ปรับตัวขึ้น 21,100 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขจ้างงานพาร์ทไทม์ลดลง 20,600 ตำแหน่ง
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยอังกฤษเตรียมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนยมิ.ย. ขณะที่สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนก.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.จาก Conference Board
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ขณะที่เยอรมนีเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. และสหรัฐเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน