อัตราส่วนหนี้ของรัฐบาลจีนเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/2562 ท่ามกลางความพยายามของทางการจีนที่จะสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการปรับปรุงการเชื่อมโยงที่อ่อนแอ
สถาบันการเงินและการพัฒนาแห่งชาติ (NIFD) เปิดเผยรายงานที่บ่งชี้ว่า อัตราส่วนหนี้สินของรัฐบาลในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 38.5% โดยเพิ่มขึ้น 0.8% จากปลายเดือนมี.ค. และเพิ่มขึ้น 1.5% จากสิ้นปี 2561
หนี้สินที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากอัตราส่วนหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 22% ณ สิ้นเดือนมิ.ย. จากระดับ 20.4% ณ สิ้นปี 2561 ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินของรัฐบาลกลาง ลดลง 0.04% ในช่วงเวลาดังกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลท้องถิ่นได้ออกพันธบัตรใหม่มูลค่า 2.8 ล้านล้านหยวน (3.95 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 คิดเป็น 70.7% ของโควต้าหนี้ประจำปีของรัฐบาลท้องถิ่น
กระทรวงการคลังระบุว่า พันธบัตรใหม่ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนโครงการสำคัญๆ เช่น การปรับปรุงย่านชานเมือง โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง การพัฒนาชนบท และการอนุรักษ์น้ำ
แม้หนี้ภาครัฐเพิ่มขึ้น แต่ NIFD ระบุว่า รัฐบาลจีนมีสินทรัพย์เพียงพอซึ่งขยายตัวตามหนี้สิน และได้เรียกร้องให้มีการผ่อนคลายมากขึ้นด้านการใช้จ่ายเพื่อลดแรงกดดันของเศรษฐกิจขาลง
สำหรับเงินฝากธนาคารของรัฐบาลมีจำนวน 35.1 ล้านล้านหยวน ณ สิ้นเดือนมิ.ย. ซึ่งเทียบเท่ากับหนี้สินรวมกันของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น