World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 9 กันยายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 9, 2019 09:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดในเดือนส.ค.

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 130,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับ 3.7% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 ก.ย. หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบที่แล้วในวันที่ 30-31 ก.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2551

-- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์นั้น ได้เพิ่มแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

-- ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของสถาบันการเงิน (RRR) ลง 0.50% โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นความพยายามล่าสุดที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ธนาคารกลางจะปรับลด RRR ของธนาคารบางแห่งลงถึง 1.00%

การปรับลด RRR ในครั้งนี้ ส่งผลให้มีสภาพคล่องไหลเข้าสู่ตลาดถึง 9 แสนล้านหยวน (1.2635 แสนล้านดอลลาร์)

ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนปรับลด RRR เป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 7 นับตั้งแต่ต้นปี 2561

-- การบริการขนส่งมวลชนในฮ่องกงช่วงเช้านี้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเป็นส่วนใหญ่ โดยทางรัฐบาลได้สั่งการให้เปิดสถานีรถไฟใต้ดินสายหลักและในเกาลูน หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงปิดล้อมสถานีรถไฟใต้ดินหลายสถานีเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา รวมทั้งจุดไฟหน้าสถานีตำรวจในย่านเกาลูน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

เศรษฐกิจฮ่องกงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์ประท้วงที่ยืดเยื้อ โดยฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating - IDR) ของฮ่องกงลงสู่ระดับ AA จากระดับ AA+ พร้อมกับให้มุมมองความน่าเชื่อถือของฮ่องกงเป็น "เชิงลบ"

-- กรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น (JMA) รายงานว่า พายุไต้ฝุ่น "ฟ้าใส" ได้พัดเข้าชายฝั่งของจังหวัดชิบะ ใกล้กับกรุงโตเกียว ในช่วงเช้านี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชน และทำให้ครัวเรือนราว 900,000 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาไฟฟ้าดับ

กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่า เมื่อเวลา 06.50 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ พายุไต้ฝุ่นฟ้าใสซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 15 ในฤดูกาลนี้ ได้เคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็วลม 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากที่พัดขึ้นฝั่งจังหวัดชิบะในช่วง 2 ชั่วโมงก่อนหน้านี้

ด้านสถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่นรายงานว่า บริษัท อีสต์ เจแปน เรลเวย์ ได้ประกาศระงับการให้บริการรถไฟสายกรุงโตเกียวไปจนถึงเวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ ขณะที่การให้บริการขนส่งมวลชนอื่นๆประสบความล่าช้า และการให้บริการรถไฟหัวกระสุนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

-- นักบินของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ผละงานประท้วงเป็นเวลา 48 ชั่วโมงในวันนี้ เนื่องจากข้อพิพาทด้านค่าจ้าง ส่งผลให้เที่ยวบินเกือบทั้งหมดของบริติช แอร์เวย์สต้องถูกระงับ และทำให้แผนการเดินทางของผู้โดยสารต้องหยุดชะงัก

ก่อนหน้านี้ สมาคมนักบินสายการบินอังกฤษ (BALPA) ได้แจ้งให้สายการบินบริติช แอร์เวย์สทราบเกี่ยวกับแผนการผละงานประท้วงเป็นเวลา 3 วันในเดือนก.ย. โดยหลังจากการประท้วงในวันที่ 9-10 ก.ย.แล้ว นักบินวางแผนที่จะผละงานประท้วงอีกครั้งในวันที่ 27 ก.ย.

-- นายฮิโรโตะ ไซคาวา ประธานและซีอีโอของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ เตรียมประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ได้ออกมายอมรับว่า ตนได้รับค่าตอบแทนสูงเกินที่ควรจะได้ โดยเป็นเงินจากแผนจ่ายค่าตอบแทนที่อ้างอิงกับหุ้น

แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้ซีอีโอนิสสันยังไม่ได้กำหนดวันลาออกและยังไม่ได้ตัดสินใจว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งแทน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังการตรวจสอบภายในของนิสสันเพิ่งแล้วเสร็จ ซึ่งได้เข้าตรวจสอบการประพฤติมิชอบทางการเงินของนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัท และจะมีการประกาศผลการตรวจสอบในการประชุมคณะกรรมการนิสสันสัปดาห์นี้

-- สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกของจีนขยายตัว 2.6% เมื่อเทียบรายปีในเดือนส.ค. ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวลดลง 2.6% โดยทั้งยอดส่งออกและนำเข้าตามรายงานดังกล่าวนั้น พิจารณาในรูปของสกุลเงินหยวน ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้า 2.396 แสนล้านหยวน (ราว 3.379 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 41.8% เมื่อเทียบรายปี สหภาพยุโรปยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ด้วยมูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 3.15 ล้านล้านหยวน ตามมาด้วยอาเซียน ด้วยมูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้น 11.7% สู่ระดับ 2.74 ล้านล้านหยวน และสหรัฐอเมริกา โดยมูลค่าการค้าลดลง 9% สู่ระดับ 2.42 ล้านล้านหยวน

-- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2562 ขยายตัว 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งระบุว่าขยายตัว 1.8% เนื่องจากการปรับลดประมาณการตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุน

ทั้งนี้ ตัวเลขประมาณการครั้งล่าสุดของ GDP ไตรมาส 2 ที่มีการเปิดเผยในวันนี้ ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 1.2% นอกจากนี้ ตัวเลขประมาณการล่าสุดยังสะท้อนให้เห็นมุมมองของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวในระดับปานกลาง

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเยอรมนีเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ค. ขณะที่อังกฤษเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ค. และ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. ขณะที่ฝรั่งเศสเตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ค. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนส.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ