World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 12 กันยายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 12, 2019 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ทวีตข้อความว่า เขาจะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์ จากวันที่ 1 ต.ค. ไปเป็นวันที่ 15 ต.ค. เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่ดีกับจีน โดยเขาระบุว่า การเลื่อนเก็บภาษีดังกล่าวมีขึ้นตามคำเรียกร้องของนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งตรงกับวันที่ 1 ต.ค.นี้

-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐทรงตัวในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 6 ก.ย. ทรงตัวอยู่ที่ 12.4 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ก.ย. โดยไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น แต่หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ตัวเลขการผลิตเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน โดยนับเป็นสัปดาห์แรกที่การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐยังคงทรงตัว หลังจากที่ลดลงในสัปดาห์ก่อนหน้า

-- คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกำลังวางแผนที่จะห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้าที่ปรุงแต่งกลิ่น หลังจากเกิดการระบาดของโรคปอดที่มีสาเหตุมาจากการสูดไอระเหย ซึ่งส่งผลให้มีผู้ป่วยมากกว่า 450 คน และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนในสหรัฐ

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า นายจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติซึ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้ก่อความผิดพลาดหลายครั้ง และมีความเห็นที่ไม่ตรงกันกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวที่สำคัญหลายราย โดยยกตัวอย่างความผิดพลาดของนายโบลตัน เช่น การเรียกร้องให้เกาหลีเหนือทำการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในรูปแบบเดียวกับลิเบียและยอมส่งมอบอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และทำให้การเจรจานั้นเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งนั่นเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเลย

-- ธนาคารกลางอาร์เจนตินาประกาศใช้มาตรการควบคุมค่าเงินอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการเก็งกำไรค่าเงินเปโซ และควบคุมวิกฤตหนี้สินไม่ให้บานปลาย ซึ่งมาตรการใหม่นี้ ธนาคารกลางอาร์เจนตินากำหนดว่า ผู้ที่ซื้อสกุลเงินต่างประเทศจะต้องเข้ามารายงานตัวเพื่อสัญญาว่าจะรอเวลาอย่างน้อย 5 วัน ก่อนที่จะนำเงินนั้นไปซื้อพันธบัตร

-- กระทรวงต่างๆของอังกฤษได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนรับมือการถอนตัวของอังกฤษจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง ที่มีชื่อว่า Yellowhammer ซึ่งประกอบด้วยสมมติฐานของผลกระทบต่างๆที่สมเหตุสมผลหากเกิดสถานการณ์เลวร้ายที่สุดจาก Brexit แบบไร้ข้อตกลงในวันที่ 31 ต.ค.นี้

-- ประธานาธิบดีแอนเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ของเม็กซิโกเปิดเผยว่า มีโอกาสน้อยลงที่รัฐบาลสหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก หลังจากทูตระดับสูงของเขาได้เข้าพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และเจ้าหน้าสหรัฐคนอื่นๆ เพื่อประเมินความคืบหน้าในการลดจำนวนผู้อพยพจากเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐ

-- สำนักงานตำรวจฮ่องกงประกาศห้ามการชุมนุมประท้วงและเดินขบวนในอาทิตย์นี้ หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงได้ก่อเหตุรุนแรงด้วยการจุดไฟที่สถานีรถไฟใต้ดินเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้เกิดความโกลาหลและสร้างความเสียหายจำนวนมาก โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกลุ่ม CHRF มีการวางแผนจะจัดการชุมนุมประท้วงครั้งใหม่ในวันอาทิตย์นี้ และถือเป็นครั้งที่ 2 ที่สำนักข่าวตำรวจได้ส่งจดหมายสั่งห้าม นับตั้งแต่กลุ่ม CHRF ได้เริ่มจัดการชุมนุมประท้วงในช่วงต้นเดือนมิ.ย.

-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.ปรับตัวขึ้น 6.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 6.04 แสนล้านหยวน หากพิจารณาในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ยอด FDI ในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.ปรับตัวขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 8.926 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนยอด FDI เฉพาะในเดือนส.ค.นั้น อยู่ที่ระดับ 7.089 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี

-- แหล่งข่าวด้านความสัมพันธ์ทวิภาคีเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้เชิญนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนให้เดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือ เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในเดือนต.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่า ยังไม่มีการตัดสินใจในขั้นสุดท้ายว่าจีนจะส่งนายหลี่ไปเยือนเกาหลีเหนือหรือไม่ แต่หากการเดินทางดังกล่าวเกิดขึ้นจริง นายหลี่ก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของจีนที่เดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2552 ซึ่งนายเหวิน เจียเป่า ได้เดินทางเยือนเกาหลีเหนือ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ