รัฐบาลของประเทศในยุโรปเรียกร้องสหรัฐกลับสู่โต๊ะเจรจาเพื่อหาทางยุติข้อขัดแย้ง ก่อนที่มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปวงเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์ จะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า
ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรปที่ลักเซมเบิร์กเมื่อวานนี้มีการพูดถึงภัยคุกคามจากความขัดแย้งทางการค้าทั่วโลกที่กำลังกระทบเศรษฐกิจยุโรป รวมถึงสถานการณ์ที่บีบบังคับให้ยุโรปต้องใช้มาตรการตอบโต้ต่อการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าโดยสหรัฐ
นายมาริโอ เซนเตโน ประธานกลุ่มยูโรโซนได้แสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวว่า ความไม่แน่นอนทางการค้าและภัยคุกคามจากการที่สหรัฐจะใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าจากยุโรปนั้น เป็นเรื่องของการเมือง
"พวกเขาไม่ได้มีรากฐานทางเศรษฐกิจที่เหมือนกันกับเรา พวกเขาจึงไม่รู้สึกถึงความไม่สมดุลที่จะกระทบเศรษฐกิจโลก" นายเซนเตโนกล่าว
การประชุมประจำเดือนของรัฐมนตรีคลังยุโรปครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังเตรียมการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) หลายรายการ หลังจากได้รับความเห็นชอบจากองค์การการค้าโลก (WTO) ให้ดำเนินการดังกล่าว โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้
สำหรับสินค้าที่จะถูกเก็บภาษี ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 10% ไปจนถึงสินค้าเกษตรและสินค้าประเภทอื่นๆ ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% ซึ่งได้แก่ วิสกี้, เสื้อผ้าชนิดต่างๆและผ้าห่ม, ข้าวมอลต์, กาแฟ, เครื่องจักร, ชีส, น้ำมันมะกอก, เนื้อแช่แข็ง, ผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมู, เนย และโยเกิร์ต