World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 13 มกราคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 13, 2020 09:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ประกาศระงับการซื้อขายในวันนี้ หลังจากภูเขาไฟตาอัล (Taal) ปะทุและพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้า จนทำให้พื้นที่หลายส่วนในเกาะลูซอน ซึ่งรวมถึงกรุงมะนิลา ถูกปกคลุมด้วยเถ้าถ่านหนาทึบ

นอกจากนี้ ทางการฟิลิปปินส์ยังสั่งปิดโรงเรียนและหน่วยงานราชการที่อยู่ใกล้บริเวณภูเขาไฟตาอัล ขณะที่การท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลา (MIAA) ได้ประกาศระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อากีโน ของกรุงมะนิลา ทั้งขาเข้าและขาออก

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 145,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 160,000 ตำแหน่ง

ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 133.13 จุด หรือ 0.46% เมื่อวันศุกร์ (10 ธ.ค.) และคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนในวันนี้ด้วย

-- ราคาทองตลาดสปอตและตลาดฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดได้กระตุ้นคำสั่งซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด หลังจากกองทัพอิหร่านยอมรับว่า ได้ยิงเครื่องบินโดยสารของยูเครนตกโดยไม่เจตนา ซึ่งส่งผลให้เกิดการประท้วงเป็นวงกว้างในประเทศอิหร่าน

ณ เวลา 07.38 น.ตามเวลาไทย ราคาทองตลาดสปอตปรับตัวขึ้น 2.19 ดอลลาร์ หรือ 0.14% แตะที่ 1,559.69 ดอลลาร์/ออนซ์

ขณะที่สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) เดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ บวก 70 เซนต์ หรือ 0.04% แตะที่ 1,560.80 ดอลลาร์/ออนซ์

-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างจีนและสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะนำคณะผู้แทนของจีนเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันของสหรัฐในวันนี้ และจะพำนักอยู่ที่กรุงวอชิงตันถึงวันที่ 15 ม.ค. เพื่อร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับสหรัฐ

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า การลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกจะมีขึ้นในวันที่ 15 ม.ค.

-- บิตคอยน์พุ่งขึ้นมายืนที่เหนือ 8,100 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บิตคอยน์อาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 8,400 ดอลลาร์ หากได้รับคำสั่งซื้อเข้าหนุนอย่างต่อเนื่อง

ณ เวลา 07.23 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้น 1.65% แตะที่ระดับ 8,192.86 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์จากบริษัทฟันด์สตาร์ทกล่าวว่า ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อบิตคอยน์ โดยขณะนี้นักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่า บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่มีความปลอดภัยเช่นเดียวกับทองคำ

-- ชาวอิหร่านยังคงชุมนุมประท้วงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เพื่อกดดันให้อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังรัฐบาลยอมรับว่ายิงเครื่องบินโดยสารของยูเครนตกโดยไม่เจตนา

ทวิตเตอร์ของผู้ใช้งานรายหนึ่งได้เผยแพร่วิดีโอของกลุ่มผู้ประท้วงที่ตะโกนว่า "รัฐบาลโกหกว่าศัตรูของเราคืออเมริกา ทั้งที่ศัตรูของเรายืนอยู่ที่นี่"

ทางด้านประนาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ทวีตข้อความสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงชาวอิหร่าน พร้อมประกาศติดตามสถานการณ์การชุมนุมประท้วงในอิหร่านอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังเตือนอิหร่านไม่ให้ก่อเหตุการณ์สังหารหมู่กลุ่มผู้ชุมนุม

-- นางไช่ อิงเหวิน ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) คว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันเป็นสมัยที่ 2 โดยเอาชนะนายหาน กั๋วอวี๋ คู่แข่งรายสำคัญจากพรรคชาตินิยม หรือก๊กมินตั๋ง (KMT) ไปด้วยคะแนนถล่มทลาย สะท้อนเสียงชาวไต้หวันส่วนใหญ่ไม่ต้องการรวมกับจีน

คณะกรรมการการเลือกตั้งของไต้หวันประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง โดยนางไช่ได้คะแนนไปเกือบ 8.2 ล้านคะแนน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ที่ไต้หวันจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีตามระบอบประชาธิปไตยเป็นครั้งแรกในปี 2539 ขณะที่นายหานได้คะแนนไปราว 5.5 ล้านคะแนน

-- ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (GEP) ที่จัดทำขึ้นสองปีครั้งว่า มีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตหนี้ทั่วโลกครั้งใหม่ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารกลางต่างๆ ตระหนักว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์นั้น อาจไม่เพียงพอที่จะรับมือกับภาวะล่มสลายทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในวงกว้างอีกครั้ง

ธนาคารโลกระบุในรายงานว่า การก่อหนี้ทั่วโลกแบ่งเป็น 4 คลื่นในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา โดยคลื่นปัจจุบันซึ่งเริ่มขึ้นในปี 2553 นั้น เป็นระลอกที่มีการกู้ยืมทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากที่สุด, เร็วที่สุด และเป็นวงกว้างมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยจีนเตรียมเปิดเผยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนธ.ค. ขณะที่อังกฤษเปิดเผยดุลการค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ย. ขณะที่จีนเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค.และยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนธ.ค. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ