รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานคาดการณ์ล่าสุดว่า รัฐบาลจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการลดยอดขาดดุลการคลังได้ภายในปีงบประมาณ 2568 โดยญี่ปุ่นจะยังคงขาดดุลการคลังซึ่งไม่ได้รวมการชำระหนี้ แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจเชิงบวกมากที่สุดก็ตาม
ทั้งนี้ ดุลการคลังขั้นต้นของญี่ปุ่นซึ่งหมายถึงรายได้จากภาษีลบด้วยค่าใช้จ่ายซึ่งไม่รวมการชำระดอกเบี้ยเงินกู้นั้น คาดว่าจะยังคงขาดดุล 3.6 ล้านล้านเยน (3.26 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปีงบประมาณ 2568 เนื่องจากรายได้จากภาษีจะลดลงท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งการคาดการณ์ยอดขาดดุลดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขประมาณการของรัฐบาลเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้วที่ระดับ 2.3 ล้านล้านเยน
คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจและการคลังของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า จะมีความล่าช้าในการปรับปรุงงบดุลการคลังขั้นต้น แม้มีการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเป็น 10% จาก 8% ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลเชื่อว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบกับธุรกิจต่างๆ และทำให้รายได้จากภาษีนิติบุคคลลดลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกนั้น เผชิญความยากลำบากในการปรับปรุงสถานะการคลังซึ่งอยู่ในภาวะย่ำแย่ที่สุดในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายด้านการประกันสังคมพุ่งขึ้น รวมถึงเงินบำเหน็จบำนาญและการดูแลสุขภาพที่เกิดจากจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว