World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 17 เมษายน 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 17, 2020 09:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งนำโดยหุ้นอเมซอนดอทคอม และหุ้นเน็ตฟลิกซ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า รัฐบาลสหรัฐจะประกาศเปิดเศรษฐกิจในไม่ช้านี้ อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-- สื่อต่างประเทศหลายแห่งซึ่งรวมถึงสำนักข่าว CNN และ CNBC รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดเผยแนวทางใหม่ซึ่งจะกำหนดเงื่อนไขในการเริ่มผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในรัฐที่มีรายงานการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชะลอตัวลง หลังจากที่รัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

รายงานระบุว่า แผนการดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยมีเป้าหมายที่จะให้แนวทางในการผ่อนคลายกฎระเบียบที่เคยนำมาใช้อย่างเข้มงวดกับภาคธุรกิจ และประชาชน

อย่างไรก็ดี แผนการดังกล่าวยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่ชัดเจนว่าจะสามารถเปิดเศรษฐกิจสหรัฐได้อีกครั้งเมื่อใด แม้ปธน.ทรัมป์เปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า บางรัฐอาจสามารถเปิดเศรษฐกิจได้ก่อนเดือนพ.ค.นี้ก็ตาม

-- คาดตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับความหวังว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในเดือนนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยแนวทางที่จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจจากจีนด้วย เพื่อประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส

-- STAT News ซึ่งเป็นนิตยสารด้านสุขภาพรายงานว่า ผลการทดสอบยา Remdesivir ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่ผลิตโดยบริษัท Gilead Sciences พบว่า ยาดังกล่าวสามารถใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนหายดีได้

รายงานระบุว่า ผลการทดลองยาในระยะ 3 ซึ่งดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยชิคาโกพบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับยา Remdesivir นั้น สามารถฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากอาการไข้และปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ

STAT News รายงานคำกล่าวของแคทลีน มุลเลน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยชิคาโก ว่า "ข่าวดีก็คือว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้รับยาตัวนี้หายดีจนกลับบ้านได้แล้ว ซึ่งมีคนไข้เพียง 2 รายเท่านั้นที่เสียชีวิต"

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยชิคาโกได้ทำการทดลองยา Remdesivir ในผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 125 คน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 113 คน

-- worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 667,572 ราย และมีผู้เสียชีวิต 33,903 ราย

ขณะนี้สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต

รัฐนิวยอร์กถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมีผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ จำนวน 226,343 ราย และเป็นจำนวนที่มากกว่าทุกประเทศในโลก

นอกจากนี้ รัฐนิวยอร์กยังมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐ จำนวน 16,251 ราย

-- worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดเมื่อคืนนี้อยู่ที่ 2,144,886 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 143,280 ราย

ทั้งนี้ สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (666,949) รองลงมาคือสเปน (182,816), อิตาลี (168,941), ฝรั่งเศส (147,863), เยอรมนี (135,663) และสหราชอาณาจักร (103,093)

นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (33,875) ตามมาด้วยอิตาลี (22,170), สเปน (19,130), ฝรั่งเศส (17,167) และสหราชอาณาจักร (13,729)

-- นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า ทางรัฐและรัฐอื่นๆอีก 6 รัฐทางชายฝั่งตะวันออกได้ขยายเวลาล็อกดาวน์ออกไปเป็นวันที่ 15 พ.ค. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.

-- กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 728 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ขณะนี้สิงคโปร์มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมรวม 4,427 ราย

นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีจำนวน 10 ราย

กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 654 รายมีความเกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในหอพัก

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.245 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5 ล้านราย

อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ต่ำกว่าในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.615 ล้านราย

ทั้งนี้ เมื่อรวมตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้รวมกับ 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่า 22 ล้านราย

การพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 2.568 ล้านราย สู่ระดับ 6.066 ล้านราย

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 22.3% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1.2 ล้านยูนิต จากระดับ 1.56 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดังกล่าวทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2527 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ จีนเตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2563 เวลา 09.00 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าตัวเลข GDP จะทรุดตัวลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด-19

ในเวลาเดียวกันยังจะมีการเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนมี.ค. ด้วย

ส่วนญี่ปุ่นจะรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. เวลา 11.30 น.

ยูโรโซนรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. เวลา 16.00 น.

และสหรัฐรายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค.จาก Conference Board เวลา 21.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ