World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 7, 2020 09:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,664.64 จุด ลดลง 218.45 จุด หรือ -0.91% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,848.42 จุด ลดลง 20.02 จุด หรือ -0.70% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,854.39 จุด เพิ่มขึ้น 45.27 จุด หรือ +0.51%

-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 20,236,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นภาวะการจ้างงานที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลในปี 2545 แต่ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 22,000,000 ตำแหน่ง หลังจากลดลง 149,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.

การดิ่งลงของตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก

-- สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะผู้นำจีนกำลังพิจารณายกเลิกการกำหนดเป้าหมายตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนประจำปี 2563 ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) หรือ "ฉวนกั๋วเหรินต้า" ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 ทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีนเผชิญกับความไม่แน่นอน

แหล่งข่าวระบุว่า คณะผู้นำจีนอาจจะเปิดเผยเป้าหมายในลักษณะภาพรวมการเติบโตของ GDP ในการประชุมดังกล่าว แทนการกำหนดเป้าหมายเป็นตัวเลขอย่างเจาะจง

-- นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 21.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 16%

ทางด้านนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ จะเป็นหนึ่งในตัวเลขการจ้างงานที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ โดยคาดว่าอัตราว่างงานอาจสูงกว่า 20%

-- นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ได้ออกมาโจมตีจีนเกี่ยวกับประเด็นการรับมือโควิด-19 อีกครั้ง โดยระบุว่า จีนปกปิดต้นตอแหล่งกำเนิดของเชื้อไวรัส

อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้นายปอมเปโอไม่ได้กล่าวอ้างเหมือนเช่นเดิมว่า สหรัฐมีหลักฐานแน่นหนาที่บ่งชี้ว่าไวรัสดังกล่าวหลุดออกมาจากห้องทดลอง แต่คำกล่าวของนายปอมเปโอก็ได้ส่งสัญญาณถึงความขัดแย้งระหว่าง 2 ชาติที่อาจนำไปสู่การทำสงครามการค้าอีกครั้ง

-- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า โนมูระ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะทำกำไร 4 ไตรมาสติดกัน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้สูงสุดในรอบกว่า 10 ปี และเข้ามาช่วยชดเชยธุรกิจรับประกันภัยที่กำลังอ่อนแอของบริษัท

อนึ่ง ทางบริษัทจะเปิดเผยผลกำไรในวันพรุ่งนี้

-- หลังจากที่ชัตดาวน์ประเทศมากว่า 6 สัปดาห์ ออสเตรเลียเตรียมที่จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในวันศุกร์นี้

ทั้งนี้ การปิดร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง รวมถึงการขอร้องให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านนั้นได้ช่วยลดอัตรากรติดเชื้อจาก 20% เหลือเพียงไม่ถึง 0.5% ในเดือนที่ผ่าน อย่างไรก็ตาม ทางการออสเตรเลียจะต้องเฝ้าระวังอย่างมาก เนื่องจากกำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้มากขึ้น

-- นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1940 ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มหดตัวอย่างรุนแรงในไตรมาส 2 ปีนี้

"เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัวลงอย่างรุนแรง และอัตราว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตของเรา ผมคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1940" รองประธานเฟดกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี พร้อมระบุว่า มีชาวอเมริกันจำนวนกว่า 30 ล้านคนได้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน

-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 44.4 ในเดือนเม.ย. ซึ่งแม้ว่าปรับตัวขึ้นจากระดับ 43 ในเดือนมี.ค. แต่ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว

ทั้งนี้ ภาคบริการของจีนอยู่ในภาวะหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-- นายอเล็กซานเดอร์ เดอ จูนิแอค ผู้อำนวยการและซีอีโอของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า ความต้องการด้านการเดินทางทางอากาศไม่น่าจะดีดตัวกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 ระบาดในทันที เมื่อประเมินจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจและความปลอดภัย โดยอ้างผลการสำรวจความคิดเห็นใน 11 ประเทศทั่วโลก

ซีอีโอ IATA กล่าวว่า "ความเชื่อมั่นของผู้โดยสารจะเผชิญกับผลกระทบเกี่ยวกับความกังวลใน 2 เรื่องหลักๆ คือความกังวลเรื่องเศรษฐกิจส่วนบุคคลในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจส่งสัญญาณถดถอย และความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางที่มีอยู่เดิม"

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยจีนเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนเม.ย. ขณะที่ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนมี.ค. เยอรมนีเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนมี.ค. ขณะที่เยอรมนีเปิดเผย ดุลการค้าเดือนมี.ค. และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ