ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยล่าสุดนายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า เขาคาดหวังว่าสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไม่ช้า พร้อมกับกล่าวว่า ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างก็มีความต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวไร้ทิศทางในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนรอความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ขณะที่ยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ย และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่คุมเข้มนโยบายการเงินจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวสู่ระดับเป้าหมายอย่างยั่งยืน
-- สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะทำงานด้านตลาดการเงินของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้แนะนำให้มีการกวดขันข้อบังคับให้บริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐต้องเปิดเผยข้อมูล หลังจากที่มีกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่นักลงทุนอาจจะถูกฉ้อโกง
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 19,005,483 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 711,858 ราย
สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (4,973,741) รองลงมาคือบราซิล (2,862,761), อินเดีย (1,967,700), รัสเซีย (871,894), แอฟริกาใต้ (529,877) และเม็กซิโก (456,100)
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (161,608) ตามมาด้วยบราซิล (97,418), เม็กซิโก (49,698), สหราชอาณาจักร (46,364) และอินเดีย (40,772)
-- กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 3,561 ราย ส่งผลให้ขณะนี้ฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 119,460 ราย แซงหน้าอินโดนีเซีย ขึ้นเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ขณะที่อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อล่าสุดจำนวน 118,753 ราย
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในฟิลิปปินส์จะพุ่งทะลุ 150,000 รายภายในสิ้นเดือนนี้
-- บริษัทนินเทนโด เปิดเผยว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทพุ่งขึ้น 428% ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีงบการเงินของบริษัท โดยได้รับอานิสงส์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ยอดขายเกมของนินเทนโดได้พุ่งขึ้น ขณะที่ความต้องการในตลาดเพิ่มมากขึ้นจากการที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องอยู่แต่ในบ้าน หลังจากที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ แถลงว่า ทางบริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัท Shenzhen Kangtai Biological Products ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของจีน เพื่อให้ Shenzhen Kangtai ผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของ AstraZeneca ในประเทศจีน โดยนับเป็นการทำข้อตกลงครั้งแรกของ AstraZeneca ในการผลิตวัคซีนในจีน
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะมีการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.
ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์รายการทางวิทยุของนายเจอราลโด ริเวรานั้น ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวว่า สหรัฐจะมีการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ก่อนสิ้นปีนี้
และเมื่อนายริเวราถามย้ำว่า "ก่อนวันที่ 3 พ.ย.หรือไม่" ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ใช่ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นก่อนถึงวันนั้น หรือราวช่วงเวลานั้น"
-- นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า การที่วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 บางตัวกำลังเข้าสู่การทดลองในขั้นสุดท้าย ไม่ได้หมายความว่าวัคซีนเหล่านี้กำลังพร้อมที่จะถูกนำมาใช้กับประชากรในวงกว้าง
"การทดลองในเฟส 3 ไม่ได้หมายความว่าวัคซีนเหล่านี้ใกล้ที่จะถูกนำมาใช้ โดยเฟส 3 หมายความว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีการทดลองวัคซีนกับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงเพื่อดูว่าวัคซีนจะสามารถป้องกันการติดเชื้อโดยธรรมชาติได้หรือไม่" นายไรอันกล่าว
-- นายไมค์ เดอไวน์ ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ ออกแถลงการณ์ระบุว่า เขาได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผลออกมาเป็นบวก
นายเดอไวน์ออกแถลงการณ์ดังกล่าว ก่อนที่เขามีกำหนดไปต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเดินทางไปถึงเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอในวันนี้
ทั้งนี้ การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือเป็นขั้นตอนปฏิบัติตามมาตรฐานสำหรับผู้ที่มีกำหนดเข้าพบกับปธน.ทรัมป์
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.186 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.42 ล้านราย และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเมื่อคืนนี้มีจำนวนลดลง 249,000 รายเมื่อเทียบกับตัวเลขที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.867 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค.
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 20 แม้ว่ารัฐต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และได้เปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่
-- นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 1.36 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 10.7%