World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 14, 2020 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดการเงินจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวถึงในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ โดยเฟดจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ

-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บริษัทซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป คอร์ป ของญี่ปุ่น เตรียมขายหุ้นที่ทางเครือบริษัทถืออยู่ทั้งหมดในบริษัท Arm ซึ่งเป็นผู้ออกแบบชิปของอังกฤษ ให้กับ Nvidia ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐ ในวงเงินสูงสุด 4 หมื่นล้านดอลลาร์

การขายหุ้นดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนมี.ค. 2565 หลังได้รับการอนุมัติจากฝ่ายกำกับดูแล โดยซอฟต์แบงก์เปิดเผยว่า ทางเครือบริษัทรวมถึงกองทุนเพื่อการลงทุนในด้านเทคโนโลยีของบริษัท จะได้ถือหุ้นของ Nvidia เป็นสัดส่วนสูงสุด 8.1% ผ่านข้อตกลงที่อยู่ในรูปปของเงินสดและหุ้น

-- สื่อต่างประเทศหลายแห่งซึ่งรวมถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ และวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก (TikTok) ได้ตกลงขายกิจการ TikTok ในสหรัฐให้กับบริษัทออราเคิล หลังจากที่ไบต์แดนซ์ได้ปฏิเสธข้อเสนอของบริษัทไมโครซอฟท์

วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ออราเคิลเตรียมประกาศตัวเป็นพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่ได้รับความไว้วางใจให้เข้าซื้อกิจการ TikTok ในไม่ช้านี้

ทางด้านไมโครซอฟท์ได้แถลงยืนยันว่า ไบต์แดนซ์ได้แจ้งให้ไมโครซอฟท์ทราบในวันนี้ว่า จะไม่ขายกิจการ TikTok ในสหรัฐให้กับไมโครซอฟท์

-- มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 รายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของสหรัฐ โดยไฟป่าที่มีความรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐครั้งนี้ ได้เผาผลาญพื้นที่ป่าหลายล้านเอเคอร์ และทำลายบ้านเรือนเสียหายจำนวนมากในรัฐแคลิฟอร์เนีย โอเรกอน และวอชิงตัน นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังได้สั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก

รายงานระบุว่า เฉพาะในรัฐโอเรกอนนั้น ไฟป่าได้เผาพลาญพื้นที่ในรัฐไปแล้วกว่า 1 ล้านเอเคอร์ และขณะนี้ประชาชนอย่างน้อย 10% ของจำนวนประชาชนทั้งหมดในรัฐ อยู่ในเขตอพยพ ขณะที่รัฐบาลของรัฐโอเรกอนกำลังรับมือกับความเสียหายครั้งร้ายแรงที่สุด

-- บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ ประกาศกลับมาทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 ในสหราชอาณาจักรอีกครั้ง หลังระงับโครงการไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากอาสาสมัครรายหนึ่งมีอาการอักเสบที่ระบบประสาทในไขสันหลังอย่างรุนแรง หลังได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว

แอสตร้าเซนเนก้าระบุว่า ได้รับคำยืนยันจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของอังกฤษว่า สามารถเริ่มการทดลองวัคซีนต่อได้ ขณะที่สถานการณ์ในประเทศอื่นนั้นยังไม่ชัดเจน

แถลงการณ์ระบุว่า แอสตร้าเซนเนก้าจะทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพทั่วโลก และรับคำแนะนำว่าเมื่อใดที่สามารถเริ่มการทดลองวัคซีนได้ใหม่อีกครั้ง ทางด้านมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวัคซีนร่วมกับแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า จนถึงปัจจุบัน มีอาสาสมัครประมาณ 18,000 รายที่ได้รับวัคซีนทดสอบ

-- ออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ บริษัทวิจัยจากอังกฤษเปิดเผยว่า ความต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลกจะร่วงลง 57% ในปี 2563 เนื่องจากมาตรการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศและการกักตัวที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

รายงานระบุว่า ความต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลกจะไม่กลับสู่ระดับปี 2562 จนกว่าจะถึงปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดและความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ รวมถึงผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งเพื่อธุรกิจและพักผ่อน

นอกจากนี้ แม้หลายประเทศจะเริ่มเปิดพรมแดนอีกครั้ง แต่ยังมีความยากลำบากอย่างมากในการหาจุดสมดุลระหว่างการควบคุมโควิด-19 และการฟื้นฟูการท่องเที่ยว

-- นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดเผยว่า เธอยังคงเชื่อมั่นว่าสภาคองเกรสจะสามารถอนุมัติกฎหมายเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 ได้ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

นางเพโลซีกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า "ดิฉันเชื่อว่า เราจะสามารถบรรลุข้อตกลง นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการ"

นางเพโลซีแสดงความเห็นดังกล่าว หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐไม่อนุมัติร่างกฎหมายฉบับใหม่ของพรรครีพับลิกันที่จะจัดสรรเงินราว 3 แสนล้านยูโรเพื่อเยียวยาผลกระทบของโรคโควิด-19 ขณะที่พรรคเดโมแครตเสนอให้จัดสรรเงินช่วยเหลือสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยจีนเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. ขณะที่ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. และอียูเตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ขณะที่จีนเตรียมเปิดเผยการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ขณะที่อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดอนก.ค. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ย.จากเฟดนิวยอร์ก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ