ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นถือครองสินทรัพย์ด้านการเงินในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1,901 ล้านล้านเยน (ประมาณ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การอุปโภคบริโภคชะลอตัวลง และทำให้ประชาชนมีเงินสดและเงินฝากมากขึ้น
นอกจากนี้ การที่ภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นมีสินทรัพย์มากขึ้น ยังเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลออกโครงการแจกเงินสดให้กับประชาชนคนละ 100,000 เยน เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งผลสำรวจพบว่าผู้บริโภคไม่ได้นำเงินดังกล่าวไปใช้จ่าย แต่เก็บไว้เป็นเงินออม แม้จะขัดกับจุดประสงค์ของนโยบายก็ตาม
รายงานของ BOJ ระบุว่า ยอดรวมของสินทรัพย์ในรูปเงินสดและเงินฝากของภาคครัวเรือนญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้น 4.9% แตะที่ 1,034 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และคิดเป็น 54.4% ของสินทรัพย์โดยรวมที่ถือครองโดยครัวเรือนญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หลังจากที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินและเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาส 2 นั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นก็ค่อยๆฟื้นตัวในไตรมาสถัดมา อย่างไรก็ดี กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังไม่กลับไปสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาด ขณะที่การแพร่ระบาดครั้งใหม่ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอน