สำนักงานสถิติของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฟิลิปปินส์ หดตัวลง 8.3% ในไตรมาส 4/2563 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัว 7.9% หลังจากหดตัว 11.4% ในไตรมาสที่ 3/2563
ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟิลิปปินส์หดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ในไตรมาส 4 ของปี 2563 แม้ว่าจะมีการกลับมาเปิดธุรกิจมากขึ้น หลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ก็ตาม
สำหรับปี 2563 GDP ของฟิลิปปินส์หดตัวลง 9.5% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะกลับมาขยายตัวในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ขณะที่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า GDP ของฟิลิปปินส์จะขยายตัว 5.9% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าระดับก่อนการแพร่ระบาด เนื่องจากฟิลิปปินส์ยังคงบังคับใช้มาตรการควบคุมการเดินทาง
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ วางแผนที่จะใช้จ่ายเงินในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.7 ล้านล้านเปโซ (9.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปีนี้ โดยหวังจะผลักดันการเติบโตของ GDP ให้สูงถึง 7.5%
ทั้งนี้ โครงการฉีดวัคซีนของฟิลิปปินส์จะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในอัตราส่วน 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 100 ล้านคนภายในสิ้นปี 2565 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในประเทศ แต่จนถึงขณะนี้ ฟิลิปปินส์ได้ลงนามในข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนเพียง 1 ใน 3 ของปริมาณที่จำเป็นต้องใช้