World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 2, 2021 08:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.) ทำสถิติทะยานขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2563 หลังสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งการที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้ความเห็นชอบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,535.51 จุด พุ่งขึ้น 603.14 จุด หรือ +1.95% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,901.82 จุด เพิ่มขึ้น 90.67 จุด หรือ +2.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,588.83 จุด เพิ่มขึ้น 396.48 จุด หรือ +3.01%

-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเตรียมเปิดเผยแผนการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของประเทศเพื่อลดการพึ่งพาชาติตะวันตก โดยปธน.สีต้องการที่จะลดการพึ่งพาด้านชิ้นส่วนประกอบที่สำคัญ อาทิ ชิปคอมพิวเตอร์ ขณะที่จีนจะทำการลงทุนครั้งใหญ่ในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และจีนจะทุ่มเงินหลายล้านล้านดอลลาร์เพื่อช่วยให้จีนแซงหน้าสหรัฐขึ้นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในทศวรรษนี้

-- รายงานจาก Public Health England เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้าเพียงเข็มเดียวนั้น สามารถลดจำนวนผู้ป่วยโรคโควิดซึ่งเป็นคนชราลงได้ราว 80% และยังช่วยลดโอกาสที่ประชาชนอายุกว่า 70 ปีจะล้มป่วยลงได้ราว 60%

-- นิวยอร์ก ไทม์สรายงานเมื่อวานนี้ว่า ทั้งอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และนางเมลลาเนีย ทรัมป์ ภริยา ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วก่อนออกจากทำเนียบขาวในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

ที่ปรึกษารายดังกล่าวไม่ได้ระบุว่า อดีตปธน.ทรัมป์ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบทั้ง 2 เข็มแล้วหรือไม่ในเดือนม.ค.

ทั้งนี้ อดีตปธน.ทรัมป์, นางเมลาเนีย และบาร์รอน บุตรชาย ต่างก็ติดเชื้อโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา

-- แพทย์หญิงมาเรีย แวน เคอร์โคฟ หัวหน้าแผนกโรคอุบัติใหม่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ได้เพิ่มขึ้นทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์

"เราจำเป็นที่จะต้องส่งคำเตือนออกไปว่า ไวรัสนี้จะกลับมาเพิ่มขึ้น ถ้าเรายอมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น" แพทย์หญิงแวน เคอร์โคฟกล่าว

ทางด้านนายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง แต่ก็ไม่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆอย่าการ์ดตกในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19

-- นายอเล็กซ์ กอร์สกี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) กล่าวว่า วัคซีนของบริษัทจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมทั้งลดจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากโควิด-19

ทั้งนี้ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันระบุว่าวัคซีนเพียงโดสเดียวของบริษัทมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งแตกต่างจากวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ซึ่งจำเป็นต้องฉีด 2 โดส

อย่างไรก็ดี ผลการทดลองพบว่า วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันมีประสิทธิภาพ 66% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งต่ำกว่าวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ซึ่งมีประสิทธิภาพ 95%

-- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของอังกฤษกำลังเร่งตามหาตัวผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์บราซิลคนหนึ่ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจสอบว่าผู้ป่วยดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 มาจากที่ใด

ขณะนี้ สหราชอาณาจักรพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์บราซิลจำนวน 6 ราย โดย 3 รายอยู่ในอังกฤษ และอีก 3 รายอยู่ในสกอตแลนด์

รัฐบาลอังกฤษออกแถลงการณ์ระบุว่า เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์บราซิลจำนวน 2 รายมาจากครอบครัวเดียวกัน ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองโกลเซสเตอร์เชียร์ทางใต้ของประเทศ โดยผู้ป่วย 2 รายนี้มีประวัติเคยเดินทางไปยังบราซิล ส่วนผู้ป่วยรายที่ 3 นั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจสอบประวัติได้

-- ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ กล่าวแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลจีนอีกครั้งเมื่อวานนี้ หลังจากที่เขาได้เป็นประธานในพิธีรับมอบวัคซีน CoronaVac ซึ่งเป็นวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวก ไบโอเทค จำนวน 600,000 โดสเมื่อวานนี้ ซึ่งรัฐบาลจีนบริจาคให้แก่ฟิลิปปินส์

"ผมขอขอบคุณรัฐบาลและประชาชนชาวจีนสำหรับความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างฟิลิปปินส์และจีน" ปธน.ดูเตอร์เตกล่าวในแถลงการณ์วันนี้

ปธน.ดูเตอร์เตยังระบุว่า การบริจาควัคซีนของจีนในครั้งนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ฟื้นตัวขึ้น หลังมีการฉีดวัคซีนในวงกว้าง

-- สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เตรียมจัดการประชุมพิเศษในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศในวันนี้ (2 มี.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตการเมืองในเมียนมา

การประชุมดังกล่าวถือเป็นการประชุมครั้งแรกของอาเซียน นับตั้งแต่ที่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.

สมาชิกส่วนใหญ่ของอาเซียนต่างแสดงความพร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุม ขณะที่มีการเชิญนายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีต่างประเทศของเมียนมา เข้าร่วมการประชุมเช่นกัน

รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกอาเซียนบางส่วนอาจเดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ขณะที่บางส่วนอาจเข้าร่วมการประชุมผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.และยอดค้าปลีกเดือนม.ค. ขณะที่ญี่ปุ่นมีกำหนดเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนม.ค. ทางด้านธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และเยอรมนีเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.พ.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.จากไฉซิน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อียู และอังกฤษเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต ขณะที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ