World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 15, 2021 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ โดยได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทำนิวไฮติดต่อกันวันที่ 4 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

-- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวให้สัมภาษณ์กับรายการ "This Week" ของสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์นั้น จะอยู่ในระดับต่ำและสามารถควบคุมได้ เนื่องจากเม็ดเงินจากมาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผลที่เกิดขึ้นจะปรากฎให้เห็นในรูปของการจ้างงานที่มีการขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพ

"ถ้าถามว่ามีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อไหม? ฉันคิดว่าความเสี่ยงจะมีน้อยมากและอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และหากเกิดภาวะเงินเฟ้อจริง เราก็มีเครื่องมือที่ดีพอในการจัดการ และเราจับตาสถานการณ์เงินเฟ้ออยู่ตลอดเวลา" นางเยลเลนกล่าวกับรายการ "This Week" เมื่อวานนี้

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ราคาบ้านใหม่ในเมืองขนาดใหญ่ทั้ง 70 เมืองของจีน พุ่งขึ้น 4.3% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งขยายตัวรวดเร็วกว่าในเดือนม.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 3.9% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมความร้องแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ความต้องการซื้อบ้านในเมืองขนาดใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย

-- สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการก่อรัฐประหารในเมียนมาเสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 22 รายเมื่อวานนี้ที่เขตไลง์ตายาในเมืองย่างกุ้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วง หลังเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานทุนจีนในพื้นที่ดังกล่าว

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายจุดไฟเผาโรงงานสิ่งทอที่เขตไลง์ตายา โดยโรงงานเหล่านี้เป็นโรงงานที่มีนักลงทุนจีนเป็นนายทุน ส่งผลให้มีพนักงานคนจีนได้รับบาดเจ็บและหาทางออกไม่ได้ ทางสถานทูตจีนจึงขอให้ทางการเมียนมาเข้ามาปกป้องทรัพย์สินและพลเมืองจีน

ทั้งนี้ จีนถูกมองว่าเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมาที่ได้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเมืองเมื่อเดือนที่แล้ว

-- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคไฟฟ้า ปรับตัวลง 4.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน แตะที่ระดับ 8.417 แสนล้านเยน (7.7 พันล้านดอลลาร์)

ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรซึ่งเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของภาคเอกชน ปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ

-- นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประกาศว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปจนถึงสิ้นปี 2564 เป็นอย่างน้อย

นายมอร์ริสันเปิดเผยว่า งบประมาณเพิ่มเติม 1.1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (853.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะช่วยปกป้องชาวออสเตรเลียจากภัยคุกคามของสถานการณ์โรคระบาดที่ยังคงดำเนินอยู่ โดยการอัดฉีดงบประมาณในครั้งนี้ส่งผลให้รัฐบาลออสเตรเลียใช้เงินเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 ไปแล้วกว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่ง 6 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียจากทั้งหมดถูกนำไปใช้ในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน

-- นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีของญี่ปุ่นซึ่งกำกับดูแลกระบวนการฉีดวัคซีนในประเทศเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเตรียมรับมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ อิงค์ (Pfizer Inc.) บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ จำนวน 100 ล้านโดส ในเดือนพ.ค.และมิ.ย.นี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเกิดอาการแพ้รุนแรงจากการฉีดวัคซีนดังกล่าว

นายโคโนะกล่าวในการแถลงข่าวว่า วัคซีนที่จะส่งมาจากโรงงานของไฟเซอร์ในเบลเยียมจำเป็นต้องผ่านการอนุมัติแบบแยกภายใต้การควบคุมการส่งออกของสหภาพยุโรป (EU) โดยญี่ปุ่นดำเนินโครงการฉีดวัคซีนล่าช้าเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่แห่งอื่นๆ เนื่องจากเกิดปัญหาในกระบวนการผลิตที่โรงงานของไฟเซอร์ และการควบคุมการส่งออกของ EU

-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่า 133 ล้านโดสทั่วสหรัฐแล้วเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.)

ข้อมูลของ CDC ระบุว่า ในปัจจุบันมีชาวอเมริกันราว 35 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่เกือบ 66 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วอย่างน้อย 1 โดส

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยจีนจะเปิดเผยการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ., ยอดค้าปลีกเดือนก.พ. และอัตราว่างงานเดือนม.ค.-ก.พ. ขณะที่อินโดนีเซียเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.พ. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค.จากเฟดนิวยอร์ก

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม, สถาบัน ZEW เปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ของเยอรมนี ทางด้านสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ