ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งจะเปิดเผยแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในวันนี้ พร้อมกับจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,066.96 จุด ลดลง 104.41 จุด หรือ -0.31%
-- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนที่ 1.776% เมื่อวานนี้ แต่ปรับตัวลงสู่ระดับราว 1.717% ในการซื้อขายช่วงบ่ายที่ตลาดนิวยอร์ก
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งคาดการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้น ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และการที่รัฐบาลสหรัฐเตรียมประกาศแผนใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน
-- แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐจะเปิดเผยแผนการใช้จ่ายด้านการสร้างงานและด้านสาธารณูปโภควงเงินรวม 2 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ (31 มี.ค.) ซึ่งจะเป็นเงินทุนสนับสนุนโครงการก่อสร้างถนนและสะพาน รวมถึงการสร้างงานในช่วง 8 ปี
-- บริษัทแอปเปิล อิงค์แถลงเมื่อวานนี้ว่า บริษัทจะจัดการประชุม Worldwide Developers Conference (WWDC) ประจำปีนี้ในวันที่ 7-11 มิ.ย. โดยจะเป็นการประชุมผ่านระบบออนไลน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
การประชุม WWDC ถือเป็นการรวมตัวกันของนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากทั่วโลก ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล อาจเปิดตัว iPhone 13 ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ผ่านมา แอปเปิลมักเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ รวมทั้ง iPad, Apple Watch, Apple TV และ Mac รุ่นใหม่ในการประชุมดังกล่าว
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แถลงวานนี้ว่า IMF เตรียมทบทวนปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกสำหรับปี 2564 และ 2565 โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่สหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่เศรษฐกิจของหลายประเทศฟื้นตัวขึ้น หลังได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง
ทั้งนี้ IMF มีกำหนดเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ฉบับใหม่ในสัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้ IMF คาดการณ์ในเดือนม.ค.ว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 5.5% ในปี 2564 หลังจากหดตัว 3.5% ในปี 2563 และจะขยายตัว 4.2% ในปี 2565
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) และจีนร่วมกันเปิดเผยรายงานเมื่อวานนี้เกี่ยวกับต้นตอของไวรัสโควิด-19 โดยได้ข้อสรุปว่า ไวรัสดังกล่าวไม่น่าจะหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นอย่างที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยไว้
รายงานระบุว่า ไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะแพร่เชื้อจากค้างคาวสู่มนุษย์ผ่านทางสัตว์อีกประเภทหนึ่งที่เป็นพาหะของโรค
ทั้งนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญที่มาจากหลายประเทศได้พบไวรัสที่คล้ายกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในค้างคาวและตัวนิ่ม แต่ยังชี้ชัดไม่ได้ว่าสัตว์ประเภทใดเป็นพาหะของโรคที่แพร่เชื้อสู่มนุษย์ โดยทางทีมผู้เชี่ยวชาญคาดว่าพาหะของโรคอาจเป็นตัวมิงค์และแมว เพราะเป็นที่ทราบกันว่าสัตว์กลุ่มนี้ติดเชื้อได้ง่าย
-- WHO ระบุในรายงานที่เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ฟาร์มสัตว์ป่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจจะเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยไม่ได้เกิดจากตลาดค้าส่งอาหารทะเลหัวหนานในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนตามที่คาดกันไว้แต่อย่างใด
รายงานความยาว 124 หน้าระบุว่า สัตว์ในฟาร์มปศุสัตว์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจเชื่อมโยงกับการพบผู้ติดเชื้อในมนุษย์รายแรกๆ และบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม นอกจากนี้ รายงานยังเปิดเผยด้วยว่า ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดก่อนสิ้นปี 2562
-- กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์วานนี้ระบุว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของ 4 ชาติในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จะเดินทางเยือนจีนในวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย. ตามคำเชิญของนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน
ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของ 4 ชาติดังกล่าว ได้แก่ รัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
แถลงการณ์ระบุว่า การเดินทางเยือนจีนของรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้ง 4 ชาติ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างจีนและมิตรประเทศในอาเซียน และการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาในภูมิภาค
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมี.ค., จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS), เยอรมนีเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมี.ค. และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP
ส่วนวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมี.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.พ., จีนเปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากไฉซิน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อียู และอังกฤษเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.พ.