World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 2, 2021 08:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับความแข็งแกร่งของดัชนีภาคการผลิตสหรัฐ รวมทั้งการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์

-- ดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮที่เหนือระดับ 4,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

รายงานระบุว่า ดัชนี S&P500 ใช้เวลาเพียง 1 ปีครึ่งในการขยายตัวจากระดับ 3,000 จุดเป็น 4,000 จุด เมื่อเทียบกับครั้งที่ขยายตัวจากระดับ 2,000 จุดสู่ระดับ 3,000 จุด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 ปี

นักลงทุนมีความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจากโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของสหรัฐเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย ส่งผลให้นักลงทุนมองข้ามการรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานซึ่งเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

-- ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก อย่างไรก็ดี การซื้อขายในตลาดเอเชียน่าจะเป็นไปอย่างเบาบางในวันนี้ เนื่องจากตลาดหลายแห่งไม่ได้เปิดการซื้อขายวันนี้เนื่องในวันหยุด เช่น ออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ และอินเดีย

-- ที่ประชุมรัฐมนตรีพลังงานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นเวลา 3 เดือน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.ไปจนถึงเดือนก.ค.

เจ้าชายอับดุลลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบียเปิดเผยในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า กลุ่มโอเปกพลัส จะเพิ่มกำลังการผลิต 350,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค., เพิ่มการผลิต 350,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. และเพิ่มการผลิต 441,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.

-- บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อิงค์ (J&J) ของสหรัฐได้ยอมรับว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ล็อตหนึ่งที่ผลิตโดยหุ้นส่วนด้านการผลิตของบริษัทนั้น ไม่มีคุณภาพตามมาตรฐาน และระบุว่า J&J จะจัดส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากขึ้นไปกำกับดูแลการผลิตวัคซีน

ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์สรายงานว่า วัคซีนโควิด-19 จำนวน 15 ล้านโดสของ J&J ได้รับความเสียหายในการผลิตที่โรงงานในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทอีเมอร์เจนท์ ไบโอโซลูชันส์ หลังจากที่คนงานใส่ส่วนผสมของวัคซีนผิดพลาด และรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ควบคุมกฎระเบียบของรัฐบาลกลางสหรัฐไม่อนุมัติสายการผลิตของโรงงานดังกล่าว

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 129,621,636 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2,830,804 ราย

ขณะนี้ สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (31,167,777) รองลงมาคือบราซิล (12,753,258), อินเดีย (12,221,665), ฝรั่งเศส (4,644,423), รัสเซีย (4,554,264), สหราชอาณาจักร (4,345,788), อิตาลี (3,584,899) ตุรกี (3,317,182) และสเปน (3,284,353)

-- ทนายความของนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา เปิดเผยว่า นางออง ซาน ซูจี ถูกตั้งข้อหาใหม่เพิ่มอีก 1 ข้อหา โดยเป็นข้อหาที่ 5 แล้วนับตั้งแต่ที่กองทัพเมียนมาเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนางซูจีเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา

มิน มิน โซ ซึ่งเป็นทนายความของนางซูจี เปิดเผยว่า ข้อหาดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องนายฌอน เทอร์เนลล์ นักเศรษฐศาสตร์ชาวออสเตรเลียซึ่งเป็นอดีตที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับนางออง ซาน ซูจี โดยนายฌอนถูกคุมตัวฐานละเมิดกฎหมายความลับราชการ

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 719,000 รายในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 27 มี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 675,000 ราย

ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59.1 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 58.6 ในเดือนก.พ. โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของคำสั่งซื้อใหม่

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 64.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2526 จากระดับ 60.8 ในเดือนก.พ. และยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 61.7

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ทางการสหรัฐเตรียมรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 630,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 6.0%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ