ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกว่า การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐจะเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวและจะไม่ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในระยะนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหุ้นไฟเซอร์ที่พุ่งขึ้นกว่า 2%
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงินในการซื้อพันธบัตรในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้แสดงความกังวลหลังจากรัฐสภาของเอลซัลวาดอร์มีมติรับรองบิตคอยน์ให้เป็นเงินตราที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในประเทศ โดย IMF กังวลว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อโครงการให้ความช่วยเหลือเอลซาวาดอร์ที่ IMF สนับสนุนอยู่ในขณะนี้ และวิตกว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสถานะการออกพันธบัตรของรัฐบาลเอลซาวาดอร์ด้วย
-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 6.6% หรือ 5.95 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากรายงานในเดือนพ.ค.
-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ออกแถลงการณ์เตือนว่า วัยรุ่นที่มีอายุ 16-24 ปีจำนวนมากกว่าคาดมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 2 ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกสะสมมีจำนวน 175,339,769 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,780,398 ราย
สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (34,266,549) รองลงมาคืออินเดีย (29,253,912), บราซิล (17,125,357), ฝรั่งเศส (5,725,492), ตุรกี (5,313,098), รัสเซีย (5,167,949), สหราชอาณาจักร (4,542,986), อิตาลี (4,239,868), อาร์เจนตินา (4,038,528), เยอรมนี (3,716,615), สเปน (3,715,454) และโคลอมเบีย (3,635,835)
-- กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 8,892 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,885,942 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐวางแผนบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์จำนวน 500 ล้านโดสให้ประเทศต่างๆ เกือบ 100 ประเทศในช่วงสองปีข้างหน้า โดยวัคซีนดังกล่าวจะบริจาคผ่านทางโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อส่งมอบให้กับประเทศที่มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 5.0% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7%
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ถูกบิดเบือนจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลงโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อยังมีสาเหตุจากราคารถยนต์มือสองและรถบรรทุกที่ทะยานขึ้นมากกว่า 7% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของราคารถยนต์มือสองมักเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเนื่องจากปัจจัยชั่วคราวเช่นนี้ จะไม่ทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ และคาดว่าเฟดจะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในการประชุมวันที่ 15-16 มิ.ย.นี้ด้วย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 376,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 15 เดือน หรือนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563
ขณะนี้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานได้ปรับตัวลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์ โดยต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 385,000 ราย แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 370,000 ราย
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ มหาวิทยาลัยมิชิแกนเตรียมรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย