เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนกล่าวเป็นนัยว่า สหรัฐเป็นต้นเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเผชิญกับผันผวนอย่างหนัก ซึ่งถือเป็นการเปิดศึกวาทกรรมครั้งล่าสุดที่จีนต้องการกดดันให้สหรัฐเป็นผู้รับผิดชอบต่อกรณีที่ประเทศยากจนที่สุดบางประเทศต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านหนี้สิน
"มีประเทศหนึ่งในกลุ่มเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ได้ใช้นโยบายการคลังแบบสุดโต่ง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความยากลำบากด้านการเงินในหมู่ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งรวมถึงปากีสถาน" นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว โดยไม่ได้เอ่ยชื่อสหรัฐโดยตรง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จีนหลายรายได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐที่ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นด้านการคลังขนานใหญ่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกล่าวว่า นโยบายดังกล่าวเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น จนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการชำระหนี้พุ่งขึ้นในทุกประเทศของกลุ่มตลาดเกิดใหม่
ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐได้ตอบโต้ว่า จีนเป็นผู้ปล่อยกู้ที่ขาดความรับผิดชอบและขัดขวางความคืบหน้าในการเจรจาพหุภาคีที่จะนำไปสู่การบรรเทาหนี้สิน โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้น จีนเป็นประเทศผู้ปล่อยกู้รายใหญ่ที่สุดให้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา