แอร์เมส (Hermes) แบรนด์แฟชั่นหรูจากฝรั่งเศส ถูกชาวสหรัฐที่อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย 2 รายฟ้องร้องในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม โดยที่ผู้ฟ้องอ้างว่า แอร์เมสไม่ยอมขายกระเป๋าระดับท็อปอย่างรุ่นเบอร์กิน (Birkin) ให้กับลูกค้าที่มี "ประวัติการซื้อไม่เพียงพอ" โดยเป็นแผนของแอร์เมสที่ต้องการบีบให้ลูกค้าซื้อสินค้าอื่น ๆ เพื่อทำยอดก่อนที่จะเสนอขายกระเป๋าระดับท็อปรุ่นนี้ได้ ซึ่งในคำร้องระบุว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้ฟ้องร้องระบุในการฟ้องคดีแบบกลุ่มในซานฟรานซิสโกว่า แอร์เมสละเมิดกฎหมายป้องกันการผูกขาด โดยบังคับให้ซื้อสินค้าชิ้นหนึ่งก่อนที่จะมีสิทธิซื้อสินค้าอีกชิ้นหนึ่ง โดยพนักงานขายประจำชอปของแอร์เมสจะเชียร์ให้ลูกค้าซื้อรองเท้า ผ้าพันคอ เครื่องประดับ และสินค้าอื่น ๆ เพื่อทำยอดให้มากพอ ก่อนที่จะเสนอขายกระเป๋ารุ่นเบอร์กินให้ในห้องส่วนตัว
คำร้องเรียนระบุว่า พนักงานขายไม่ได้รับค่าคอมมิชชันจากการขายกระเป๋ารุ่นเบอร์กิน โดยพนักงานถูกสั่งให้ใช้กระเป๋ารุ่นเบอร์กินเป็นเครื่องมือในการบังคับให้ลูกค้าซื้อสินค้าประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ได้กระเป๋าระดับท็อปรุ่นนี้
นอกจากนี้ ผู้ฟ้องยังมีการเรียกร้องให้แอร์เมสชดใช้ด้วยเงินโดยไม่ได้ระบุจำนวนเงิน และขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามไม่ให้แอร์เมสดำเนินการในลักษณะที่ผู้ฟ้องอ้างว่าเป็นการต่อต้านการแข่งขันทางการค้าเช่นนี้อีก
ทั้งนี้ ผู้ฟ้องได้ตัดสินใจเลือกดำเนินคดีแบบกลุ่ม และเชิญชวนให้ชาวสหรัฐหลายพันคนที่เคยถูกแอร์เมสบังคับให้ทำเช่นนี้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟ้องร้องคดีแบบกลุ่มนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เคยซื้อสินค้าอื่น ๆ จนซื้อกระเป๋าเบอร์กินมาได้สำเร็จแล้ว หรือเคยถูกเชียร์ให้ซื้อสินค้าอื่น ๆ ก่อนที่จะซื้อกระเป๋าเบอร์กินได้