ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เปิดเผยว่า เกิดเหตุยิงถล่มขึ้นหลายครั้งใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (ZNPP) เมื่อวันจันทร์ (6 ต.ค.) ท่ามกลางสถานการณ์ไฟดับนอกโรงงานที่ยาวนานที่สุด ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับความปลอดภัยและความมั่นคงทางนิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้าแห่งนี้
IAEA ระบุในแถลงการณ์ว่า การยิงถล่มเกิดขึ้นในช่วงบ่าย รวมทั้งสิ้น 15 ครั้งทั้งระยะใกล้และระยะกลาง โดย ZNPP ให้ข้อมูลกับ IAEA ว่า มีการยิงถล่ม 2 ครั้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ห่างจากโรงไฟฟ้าราว 1.25 กิโลเมตร
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือความเสียหายใด ๆ ในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการ IAEA กล่าวว่า การยิงถล่มดังกล่าวยิ่งตอกย้ำถึงอันตรายที่ ZNPP ต้องเผชิญอย่างต่อเนื่อง
"สถานการณ์ความมั่นคงและความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้ดีขึ้นเลย ในทางกลับกัน มันยิ่งเสี่ยงมากขึ้นด้วยซ้ำ โรงงานแห่งนี้ไม่มีพลังงานมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว ส่งผลให้ต้องพึ่งพาเครื่องปั่นไฟดีเซลสำรองฉุกเฉินสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่จำเป็นต่อการระบายความร้อนเตาปฏิกรณ์ที่ปิดระบบและเชื้อเพลิงใช้แล้ว นี่เป็นสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างยิ่ง" กรอสซีกล่าวกรอสซีเรียกร้องให้ "ใช้มาตรการทางทหารอย่างจำกัดมากที่สุดในพื้นที่ใกล้กับโรงงานนิวเคลียร์" พร้อมกล่าวว่า เขาจะยังคงร่วมมือกับรัสเซียและยูเครนเพื่อฟื้นฟูพลังงานภายนอกโรงงานโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ZNPP ขาดการเชื่อมต่อกับสายส่งไฟฟ้าขนาด 750 กิโลโวลต์เส้นสุดท้ายเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ระหว่างที่เกิดความขัดแย้ง ปัจจุบันมีเครื่องปั่นไฟดีเซลสำรองฉุกเฉิน 8 เครื่องกำลังทำงานเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าสำรองให้กับโรงไฟฟ้า ZNPP