โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ (21 ต.ค.) ว่า ญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะลดการพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากรัสเซีย โดยที่ผ่านมานั้น ญี่ปุ่นได้ลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัสเซียส่งทหารเข้าทำสงครามในยูเครน อย่างไรก็ดี มูโตะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะยังไม่ระงับการนำเข้าในทันที และไม่ได้ระบุช่วงเวลาหรือรายละเอียดว่าจะยุติการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียเมื่อใด แม้จะถูกกดดันเพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ ก็ตาม
รัฐมนตรีการค้าญี่ปุ่นระบุว่า การจัดหาก๊าซ LNG จากโครงการซาคาลิน-2 (Sakhalin-2) ของรัสเซีย คิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของการนำเข้าเชื้อเพลิงทั้งหมดของญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้การนำเข้าก๊าซจากรัสเซียจึงมีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในประเด็นก๊าซ LNG ของรัสเซีย มูโตะกล่าวว่าญี่ปุ่นจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงกลุ่มประเทศ G7 โดยพิจารณาถึงผลประโยชน์แห่งชาติของญี่ปุ่น
การแสดงความเห็นดังกล่าวของมูโตะ มีขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ เพิ่มความพยายามในการลดการขายพลังงานของรัสเซียเพื่อกดดันให้มีการยุติสงครามในยูเครน โดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวกับคัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น ในระหว่างการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ คาดหวังให้ญี่ปุ่นยุติการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย
ที่ผ่านมานั้น ญี่ปุ่นมักกล่าวว่ายังไม่มีการวางแผนที่จะหยุดซื้อก๊าซ LNG ของรัสเซียในทันที แม้พันธมิตรในยุโรปจะเริ่มแบนเชื้อเพลิงดังกล่าวเพื่อไม่ให้รัสเซียเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการทำสงครามในยูเครน โดยขณะนี้ญี่ปุ่นเป็นสมาชิกเพียงรายเดียวของกลุ่มประเทศ G7 ที่ยังไม่ได้ให้คำมั่นในเรื่องกรอบเวลาเพื่อยุติการนำเข้าก๊าซจากรัสเซีย
นอกจากนี้ บริษัทเทรดดิ้งของญี่ปุ่นหลายแห่งยังคงถือหุ้นในโรงงานซาคาลิน-2 ของรัสเซีย ซึ่งเป็นสถานีส่งออกก๊าซ LNG ที่ใกล้ที่สุดของญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้น เชื้อเพลิงส่วนใหญ่ที่ซื้อจากโครงการดังกล่าวมีการจัดหาให้ภายใต้ข้อตกลงการซื้อระยะยาว ซึ่งบางส่วนจะไม่หมดอายุจนกว่าจะถึงคริสต์ทศวรรษ 2030