ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงเกือบ 40 ดอลลาร์ ใกล้หลุดระดับ 3,340 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 22.44 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 37.00 ดอลลาร์ หรือ 1.09% สู่ระดับ 3,344.20 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2568 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.0% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.3% และดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับการหดตัว 0.5% ในไตรมาส 1/2568 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี
การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2/2568 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง และการปรับตัวดีขึ้นของดุลการค้าสหรัฐ
ทั้งนี้ ในปี 2567 เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 1, 3.0% ในไตรมาส 2, 3.1% ในไตรมาส 3 และ 2.4% ในไตรมาส 4
นอกจากนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 104,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 64,000 ตำแหน่ง หลังจากลดลง 23,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
ADP เปิดเผยว่า ตัวเลขค่าจ้างเพิ่มขึ้น 4.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.
ตลาดจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้
นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พยายามกดดันนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ให้ลดอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมคืนนี้
นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนธ.ค.