ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $10.30 หลังนลท.คลายกังวลสถานการณ์ต่างประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 26, 2017 07:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในต่างประเทศ รวมถึงชัยชนะของนายเอมมานูเอล มาครอง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก และการที่เกาหลีเหนือไม่ได้ทดลองนิวเคลียร์เมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้นและสกุลเงินยูโร

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 10.30 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ระดับ 1,267.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 26.7 เซนต์ หรือ 1.50% ปิดที่ 17.591 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 957.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 796.65 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทองคำและหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้นและสกุลเงินยูโร หลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกระบุว่า นายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครซึ่งมีแนวคิดสายกลาง มีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งได้ลดความวิตกเกี่ยวกับการที่ฝรั่งเศสอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับคาบสมุทรเกาหลี หลังกองทัพเกาหลีใต้แถลงว่า เกาหลีเหนือได้เสร็จสิ้นการเฉลิมฉลองวันครบรอบปีที่ 85 ของการก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลีเมื่อวานนี้ โดยไม่มีการทดลองนิวเคลียร์ และไม่มีการยิงขีปนาวุธแต่อย่างใด ยกเว้นการยิงปืนใหญ่บริเวณเมืองวอนซาน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 5.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 621,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2016 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.8% สู่ระดับ 583,000 ยูนิตในเดือนมี.ค.

ขณะที่ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ พุ่งขึ้น 5.8% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.9% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.7% และเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2014


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ