สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ Brexit ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1,306.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 15.372 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 18.6 ดอลลาร์ หรือ 2.23% ปิดที่ 852.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 12.20 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1551.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลงกว่า 0.14% สู่ระดับ 96.39 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยนายจอร์จ ซิแอมบา รัฐมนตรีฝ่ายกิจการยุโรปของโรมาเนีย ซึ่งเป็นประธานสหภาพยุโรป (EU) ในปีนี้ กล่าวว่า หลายสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในการประชุมสุดยอด EU ในสัปดาห์นี้
นักลงทุนจับตาการผลประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้