สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 1,400 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นดอลลาร์และหุ้น หลังจากผู้นำสหรัฐและจีนได้บรรลุข้อตกลงสงบศึกการค้า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 24.4 ดอลลาร์ หรือ 1.73% ปิดที่ 1,389.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 14.8 เซนต์ หรือ 0.96% ปิดที่ 15.193 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 837.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,544.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนส่งสัญญาณในด้านบวก โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ตกลงกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มการเจรจาการค้าอีกครั้ง บนพื้นฐานของความเท่าเทียม และความเคารพซึ่งกันและกัน โดยสหรัฐและจีนจะระงับการเพิ่มภาษีต่อสินค้านำเข้าครั้งใหม่
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.7% แตะที่ 96.80 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะลดความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ