สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,513.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ขยับลง 0.7 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 17.676 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ปิดทรงตัวที่ระดับ 894.4 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 35.30 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,630.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความซบเซาของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 52.6 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2559 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 55.3 จากระดับ 56.4 ในเดือนส.ค.
ก่อนหน้านี้ ISM เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 47.8 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2552 จากระดับ 49.1 ในเดือนส.ค. และบ่งชี้ถึงการหดตัวเป็นเดือนที่ 2
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.22% สู่ระดับ 98.8 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าได้เพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ