สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันศุกร์ (3 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์ทองแดง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ความต้องการทองแดงจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.95 เซนต์ หรือ +3.22% ปิดที่ 5.1090 ดอลลาร์/ปอนด์
นักลงทุนคาดการณ์ว่า โลหะทองแดงจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นสำหรับการใช้งานในช่วงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ตลอดจนการใช้งานในศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ขณะเดียวกัน กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้กลับมาเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองแดงอีกครั้ง โดยนักลงทุนต่างก็คาดหวังว่าการลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์ทองแดง นอกจากนี้ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองแดงอีกทางหนึ่งเช่นกัน เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองแดงซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
สัญญาทองแดงยังได้ปัจจัยบวกจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานโลกชะงักงัน หลังจากบริษัทฟรีพอร์ต-แมคโมแรน (Freeport-McMoRan) ประกาศภาวะสุดวิสัย (Force Majeure) ที่เหมืองกราสเบิร์ก (Grasberg) ในประเทศอินโดนีเซีย หลังเกิดเหตุดินถล่มครั้งใหญ่ ส่งผลให้มีพนักงานเหมืองเสียชีวิตและสูญหาย
ทั้งนี้ ภาวะสุดวิสัยเป็นส่วนหนึ่งที่ระบุในสัญญาซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระจากข้อบังคับทางกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ข้อพิพาทด้านแรงงาน การประท้วง การก่อการร้าย และภัยพิบัติทางธรรมชาติ