ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (21 ก.ค.) สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวลง หลังมีพยากรณ์อากาศว่าจะมีฝนตกซึ่งเป็นผลดีต่อเขตเพาะปลูกธัญพืชหลักของสหรัฐฯ ขณะที่สัญญาข้าวสาลีก็ปรับตัวลงเช่นกัน ท่ามกลางสัญญาณว่ารัสเซียจะเพิ่มการส่งออก
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.50 เซนต์ หรือ -1.29% ปิดที่ 4.2225 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 4.00 เซนต์ หรือ -0.73% ปิดที่ 5.4225 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 9.75 เซนต์ หรือ -0.94% ที่ 10.2600 ดอลลาร์/บุชเชล
การปรับตัวลงทั้งกระดานครั้งนี้สวนทางกับช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วซึ่งราคาปรับตัวสูงขึ้นจากความกังวลเรื่องคลื่นความร้อน
การพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกเพิ่มในสัปดาห์นี้ ช่วยคลายความกังวลว่าสภาพอากาศที่ร้อนจัดอาจเป็นภัยต่อผลผลิตข้าวโพดที่กำลังเติบโต
แรนดี เพลซ นักวิเคราะห์จาก Hightower Report กล่าวว่า "แบบจำลองพยากรณ์อากาศเช้านี้ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศร้อนจัด และพื้นที่ตอนเหนือของแถบมิดเวสต์ยังคงมีแนวโน้มที่จะมีฝนตกในอีก 10 วันข้างหน้า"
ขณะเดียวกัน ความกังวลที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาถั่วเหลือง
เทอร์รี ไรลีย์ นักกลยุทธ์อาวุโสด้านการเกษตรของ Marex กล่าวว่า "กำหนดเส้นตายเรื่องกำแพงภาษีในวันที่ 1 ส.ค. อาจเป็นอีกปัจจัยที่สร้างบรรยากาศเชิงลบต่อตลาด เนื่องจากมีเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้"
สำหรับข้าวสาลี ราคาถูกกดดันจากการที่ผลผลิตชุดแรกของฤดูเก็บเกี่ยวใหม่จากรัสเซียเริ่มเข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตาม เพลซตั้งข้อสังเกตว่า การลดลงของราคาถูกจำกัดโดยข้อตกลงที่บังกลาเทศจะสั่งซื้อข้าวสาลีจากสหรัฐฯ 700,000 ตันต่อปีเป็นเวลา 5 ปี นอกจากนี้ ราคายังได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการส่งออกของรัสเซียที่น้อยกว่าคาด แม้ว่ามีผลผลิตใหม่ออกมาแล้วก็ตาม
พยากรณ์อากาศยังชี้ด้วยว่า ฝนที่คาดว่าจะตกน่าจะเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของข้าวสาลีที่ปลูกในฤดูใบไม้ผลิในเขตที่ราบเกรตเพลนส์ตอนเหนือของสหรัฐฯ และทุ่งหญ้าแพรรีของแคนาดา ตามข้อมูลจาก Commodity Weather Group