ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (1 ธ.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติระงับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในไตรมาส 1/2569 ในการประชุมเมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
ณ เวลา 07.14 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.40% สู่ระดับ 59.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
โอเปกพลัส ซึ่งประกอบด้วยซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต โอมาน อิรัก คาซัคสถาน และแอลจีเรีย ระบุในแถลงการณ์ว่า เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยตามฤดูกาลแล้ว ที่ประชุมได้ตัดสินใจระงับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในไตรมาส 1/2569 โดยสมาชิกแต่ละประเทศของโอเปกพลัสจะใช้แนวทางที่ระมัดระวังและรักษาความยืดหยุ่นในการปรับระดับการผลิตตามความจำเป็น และได้กำหนดวันประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 4 ม.ค. 2569 เพื่อทำการตัดสินใจเพิ่มเติม
ในการประชุมครั้งนี้ โอเปกพลัส ได้อนุมัติกลไกการทบทวนขีดความสามารถสูงสุดในการผลิตน้ำมันของสมาชิกแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและจะช่วยในการกำหนดโควตาสำหรับ 2570 โดยโอเปกพลัสได้เลือกบริษัทที่ปรึกษาคือ ดีโกลเยอร์ แอนด์ แมคนอตัน คอร์ป (DeGolyer and MacNaughton Corp.) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองดัลลัสของสหรัฐฯ เป็นผู้ประเมินขีดความในการผลิตของสมาชิก โดยการประเมินจะดำเนินการระหว่างเดือนม.ค. จนถึงเดือนก.ย. 2569 ก่อนที่โอเปกพลัสจะตัดสินใจเกี่ยวกับโควตาการผลิตสำหรับปี 2570
ด้านนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 สู่ระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับ 57.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสประกาศระงับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาส 1/2569 ซึ่งเป็นการระงับครั้งแรกนับตั้งแต่โอเปกพลัสได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนเม.ย.ปีนี้