ราคาทองแดงมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นในปีนี้มากที่สุดในรอบ 16 ปี โดยได้แรงหนุนจากปัญหาชะงักงันของอุปทาน ดอลลาร์ที่อ่อนค่า ความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งการใช้จ่ายในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)
นักวิเคราะห์ระบุว่า การปรับตัวขึ้นของทองแดงอาจต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ท่ามกลางความกังวลด้านอุปทาน และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของศูนย์ข้อมูลทั่วโลก
ทั้งนี้ ราคาสัญญาทองแดงในตลาดโลหะลอนดอน (London Metal Exchange: LME) บวก 1.5% สู่ระดับ 12,405 ดอลลาร์/เมตริกตันในวันนี้ หลังพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12,960 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้
ราคาทองแดงพุ่งขึ้นราว 41% ในปีนี้ ทำสถิติปรับตัวดีที่สุดเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งในปีดังกล่าว ราคาทองแดงพุ่งขึ้นมากกว่า 140% หลังจากประเทศต่าง ๆ เริ่มฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตการเงินโลก
ความต้องการทองแดงมักถูกมองว่าเป็นตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจโดยรวม โดยทองแดงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศในด้านพลังงาน และเป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า โครงข่ายไฟฟ้า และกังหันลม
นอกจากนี้ การใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น การขยายโครงข่ายไฟฟ้า และการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล ล้วนต้องใช้ทองแดงจำนวนมากสำหรับระบบสายไฟ การส่งผ่านพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานด้านการระบายความร้อน
นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนระบุในรายงานว่า ราคาทองแดงในตลาด LME มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปในปีหน้า โดยคาดว่าราคาเฉลี่ยในไตรมาส 2/2569 จะอยู่ที่ 12,500 ดอลลาร์/เมตริกตัน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดว่าราคาทองแดงจะทะยานแตะระดับ 15,000 ดอลลาร์ในปี 2578