สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% แตะที่ 104.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 พ.ค. ร่วงลง 7.2 ล้านบาร์เรล แตะ 391.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 700,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ทะยาน 3.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 116.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 970,000 บาร์เรล แตะ 213.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.1% แตะ 88.7% สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงหนุนหลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 49.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จาก 48.1 ในเดือนเม.ย. อันเนื่องมาจากยอดสั่งซื้อใหม่และยอดสั่งซื้อสินค้าส่งออกล็อตใหม่สามารถกลับมาขยายตัวอีกครั้ง