ณ เวลา 18.13 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 69 เซนต์ หรือ 1.62% สู่ระดับ 41.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปี
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ปีนี้ หดตัวลง 1.6% ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่าย และการส่งออกอยู่ในภาวะซบเซา
การอุปโภคบริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 60% ของ GDP ปรับตัวลง 0.8% เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมทั้งราคาอาหารและของใช้ประจำวันที่ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน การส่งออกในไตรมาส 2 ร่วงลง 4.4% ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส โดยสะท้อนถึงยอดส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่ปรับตัวลง ท่ามกลางการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนและประเทศอื่นๆในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
ส่วนการใช้จ่ายด้านทุนของภาคเอกชน ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นมองว่าเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนั้น ลดลง 0.1% ซึ่งเป็นการปรับลงครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส และนับเป็นการส่งสัญญาณว่า ความต้องการด้านการลงทุนของบริษัทเอกชนนั้น มีแนวโน้มอ่อนแรงลง
ทางด้านบริษัทน้ำมันของสหรัฐได้เพิ่มการขุดเจาะในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าราคาน้ำมันดิบร่วงลง ซึ่งส่งผลให้จำนวนบ่อน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดฟื้นตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (14 ส.ค.) หลังจากเทรดเดอร์ช้อนซื้อเมื่อราคาร่วงลงจากการเทขายอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดี