เจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดีย (Nvidia) บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ กล่าวยกย่องโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาโดยบริษัทจีนอย่างดีปซีค (Deepseek) อาลีบาบา (Alibaba) และเทนเซ็นต์ (Tencent) ว่ามีคุณภาพ "ระดับโลก" พร้อมทั้งระบุว่า AI กำลังเข้ามาปฏิวัติห่วงโซ่อุปทาน
เจนเซน หวง ได้กล่าวสุนทรพจน์สั้น ๆ ในพิธีเปิดงานมหกรรมซัพพลายเชนระดับนานาชาติของจีน ณ กรุงปักกิ่งในวันนี้ (16 ก.ค.) ซึ่งเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่อินวิเดียประกาศว่าจะสามารถกลับมาจำหน่ายชิป AI รุ่น H20 ในตลาดจีนได้อีกครั้ง หลังจากถูกระงับไปก่อนหน้านี้ตามมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ
การมาเยือนประเทศจีนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ของเจนเซน หวง มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งอินวิเดีย โดยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่เขาได้เข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยในวันอังคาร (15 ก.ค.) ว่า การที่รัฐบาลเตรียมอนุญาตให้อินวิเดียกลับมาจำหน่ายชิป H20 ให้กับจีนได้อีกครั้งนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาต่อรองกับรัฐบาลจีน เพื่อให้จีนกลับมาส่งออกแร่หายากให้แก่สหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี เจนเซน หวง ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนในเช้าวันนี้ว่า "ความเปลี่ยนแปลงล่าสุดนี้ แท้จริงแล้วเป็นผลมาจากการหารือที่เป็นไปในทางสร้างสรรค์และเชิงบวกระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับรัฐบาลจีน เกี่ยวกับข้อบังคับในการควบคุมการส่งออก" พร้อมเสริมว่า "ผมได้รับการยืนยันว่าใบอนุญาตต่าง ๆ จะได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ก็มีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากแล้ว"
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนแล้ว คำสั่งซื้อชิปจากบริษัทจีนที่ส่งมาถึงอินวิเดีย จะต้องถูกส่งต่อไปให้รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาอนุมัติ โดยมีรายงานว่า บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่อย่างไบต์แดนซ์ (ByteDance) และเทนเซ็นต์ กำลังอยู่ในกระบวนการยื่นคำขออนุมัติ
นอกจากนี้ เจนเซน หวง ยังได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนเมื่อวันอังคารว่า ตลาดจีนนั้นใหญ่โตมโหฬาร เต็มไปด้วยพลวัต และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สูง จึงสำคัญอย่างยิ่งที่บริษัทอเมริกันจะต้องเข้ามาลงหลักปักฐานในจีน
ขณะเดียวกัน อินวิเดียยังได้ประกาศว่ากำลังพัฒนาชิปรุ่นใหม่สำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะในชื่อ RTX Pro GPU ซึ่งจะถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐฯ เช่นเดียวกับชิป H20