สถาบันอาชญาวิทยาของออสเตรเลีย (AIC) เปิดเผยรายงานในวันนี้ (14 ส.ค.) ระบุว่า ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเกือบครึ่งหนึ่งตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
รายงานของ AIC ซึ่งอ้างอิงจากผลสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 10,000 รายพบว่า 47.4% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเขาตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางไซเบอร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 2 ใน 3 หรือ 63.9% ระบุว่า พวกเขาเคยตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางไซเบอร์มาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้งตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา ขณะที่ 20% จากจำนวนทั้งหมดระบุว่า พวกเขาตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางไซเบอร์สองประเภทขึ้นไปในช่วง 12 เดือนก่อนการสำรวจ
การล่วงละเมิดและการคุกคามออนไลน์รูปแบบของอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่พบบ่อยที่สุด โดยส่งผลกระทบต่อผู้ตอบแบบสอบถาม 26.8% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ตามมาด้วยอาชญากรรมทางข้อมูลส่วนตัว มัลแวร์ การฉ้อโกง และการหลอกลวง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การฉ้อโกงและการหลอกลวงที่พบได้บ่อยที่สุดในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาคือ การหลอกให้เหยื่อจ่ายเงินหรือให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเมื่อพวกเขาพยายามที่จะซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการจากผู้ขายออนไลน์ปลอมหรือผู้มีเจตนาฉ้อโกง
ผลสำรวจพบว่า ชาวออสเตรเลีย 50.7% ใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกันเพื่อความปลอดภัยของบัญชีออนไลน์ในปี 2567 ซึ่งลดลงจาก 53.2% ในปี 2566 ขณะที่สัดส่วนของชาวออสเตรเลียที่เปลี่ยนรหัสผ่านสำหรับบัญชีที่ต้องการความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ใช้โปรแกรมจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัย และใช้การป้องกันด้วยรหัสผ่านบนเราเตอร์ ก็ลดลงเช่นกัน