เพนสกี มีเดีย คอร์ปอเรชัน (Penske Media Corporation) ผู้เป็นเจ้าของนิตยสารโรลลิงสโตน, บิลบอร์ด และวาไรตี ได้ยื่นฟ้องกูเกิล (Google) เมื่อวันศุกร์ (12 ก.ย.) ในข้อหาที่ว่า "AI Overviews" ระบบสรุปความด้วย AI ของกูเกิลได้ละเมิดนำงานเขียนเชิงวารสารศาสตร์ของบริษัทไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังส่งผลให้จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทลดลง
คดีความที่เพนสกี มีเดีย ยื่นฟ้องต่อศาลสหพันธรัฐ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่สำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ตัดสินใจดำเนินคดีในชั้นศาลกับกูเกิล ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออัลฟาเบท (Alphabet) ในประเด็นที่เกี่ยวกับบทสรุปความที่สร้างขึ้นโดย AI ซึ่งปรากฏอยู่ส่วนบนสุดของหน้าผลการค้นหาในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ บรรดาองค์กรข่าวได้แสดงความกังวลมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วว่าฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของกูเกิล ซึ่งรวมถึงระบบ "AI Overviews" นั้น ได้แย่งชิงปริมาณการเข้าชมไปจากเว็บไซต์ของตน อันจะบั่นทอนรายได้ทั้งจากค่าโฆษณาและการบอกรับเป็นสมาชิก
เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา บริษัทเชกก์ (Chegg) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการศึกษาออนไลน์ ก็ได้ยื่นฟ้องกูเกิลในข้อหาทำนองเดียวกัน โดยกล่าวอ้างว่า บทสรุปความที่สร้างโดย AI ของกูเกิลเป็นเหตุให้ความต้องการเนื้อหาต้นฉบับลดลง และบั่นทอนศักยภาพในการแข่งขันของบรรดาผู้ผลิตสื่อ
เพนสกี ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทสื่อในครอบครัวภายใต้การนำของ เจย์ เพนสกี และมีเนื้อหาที่สามารถดึงดูดผู้เข้าชมทางออนไลน์ได้ถึง 120 ล้านคนต่อเดือน ชี้แจงว่า กูเกิลกำหนดเป็นเงื่อนไขว่า การที่เว็บไซต์ของสำนักพิมพ์จะปรากฏในผลการค้นหาได้นั้น สำนักพิมพ์จำต้องยินยอมให้กูเกิลนำบทความไปใช้ในระบบสรุปความด้วย AI ด้วย
ในคำฟ้องระบุว่า หากปราศจากซึ่งอำนาจต่อรองดังกล่าว กูเกิลจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้แก่สำนักพิมพ์เพื่อแลกกับสิทธิ์ในการนำผลงานไปเผยแพร่ต่อ หรือนำไปใช้เพื่อฝึกฝนระบบ AI ของตน คำฟ้องยังเสริมอีกว่า ที่กูเกิลสามารถกำหนดเงื่อนไขเช่นนี้ได้ ก็เนื่องด้วยสถานะเป็นผู้ครอบงำตลาดการค้นหา โดยอ้างอิงถึงคำวินิจฉัยของศาลสหพันธรัฐเมื่อปีก่อน ซึ่งชี้ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้ครองส่วนแบ่งตลาดการค้นหาในสหรัฐฯ เกือบถึง 90%
"เรามีภาระหน้าที่ในการต่อสู้อย่างแข็งขันเพื่ออนาคตของสื่อดิจิทัลและรักษาไว้ซึ่งความถูกต้องสมบูรณ์ของมัน ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังถูกคุกคามจากการกระทำของกูเกิลในปัจจุบัน" ตัวแทนของเพนสกีกล่าวเพนสกีกล่าวหาว่า ราว 20% ของผลการค้นหาในกูเกิลที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของบริษัท ตอนนี้ได้แสดงผลแบบ AI Overviews และคาดว่าสัดส่วนดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังระบุว่ารายได้จากเครือข่ายพันธมิตรของบริษัทได้ลดลงกว่าหนึ่งในสามเมื่อเทียบกับช่วงที่เคยขึ้นไปสูงสุดภายในสิ้นปี 2567 อันเนื่องมาจากปริมาณการเข้าชมผ่านการค้นหาที่ลดลง
ในการโต้ตอบต่อคดีความของเพนสกีเมื่อวันเสาร์ (13 ก.ย.) กูเกิลกล่าวว่าระบบ AI Overviews นั้นมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้งาน และยังช่วยพาผู้คนไปยังเว็บไซต์ที่หลากหลายมากขึ้นอีกด้วย
"ด้วย AI Overviews ผู้คนจะพบว่า Search นั้นมีประโยชน์ยิ่งขึ้นและใช้งานบ่อยขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่การค้นพบเนื้อหา เราจะต่อสู้กับข้อกล่าวอ้างอันปราศจากมูลความจริงเหล่านี้" โฆเซ กัสตาเญดา โฆษกของกูเกิลกล่าว