Blue Origin ปล่อยจรวด New Glenn สำเร็จ ส่ง 2 ดาวเทียม NASA สู่ดาวอังคาร

ข่าวต่างประเทศ Friday November 14, 2025 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จรวดขนาดยักษ์ New Glenn ของบริษัทบลูออริจิน (Blue Origin) ซึ่งก่อตั้งโดยมหาเศรษฐี เจฟฟ์ เบซอส ทะยานขึ้นจากรัฐฟลอริดาในภารกิจเชิงพาณิชย์ครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (13 พ.ย.) โดยได้ส่งดาวเทียม 2 ดวงของนาซา (NASA) มุ่งหน้าสู่ดาวอังคาร พร้อมสร้างประวัติศาสตร์นำจรวดท่อนแรก (Booster) ที่ใช้ซ้ำได้ กลับมาลงจอดสำเร็จเป็นครั้งแรก

ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของบลูออริจินในการก้าวขึ้นมาแข่งขันกับสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ของอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดบริการส่งจรวดของโลกได้อย่างทัดเทียมยิ่งขึ้น หลังจากเที่ยวบินเปิดตัวเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

การถ่ายทอดสดของบลูออริจินเผยให้เห็นภาพจรวดทะยานขึ้นจากฐานปล่อยสู่ท้องฟ้าที่แจ่มใสในช่วงบ่าย ท่ามกลางเปลวไฟและกลุ่มควันไอน้ำที่พวยพุ่งออกจากเครื่องยนต์เชื้อเพลิงเหลว BE-4 ทั้ง 7 เครื่องยนต์ โดยภารกิจนี้ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมหลายวันเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยและผลกระทบจากพายุสุริยะ

ประมาณ 10 นาทีหลังการปล่อยจรวด จรวดท่อนแรกของ New Glenn ซึ่งสูงเทียบเท่าตึก 17 ชั้น ได้กลับมาลงจอดอย่างสวยงามบนเรือโดรนในมหาสมุทรแอตแลนติก ที่มีชื่อว่า "Jacklyn" เพื่อเป็นเกียรติแก่มารดาของเบซอส โดยนับเป็นการบรรลุเป้าหมายด้านเทคโนโลยีจรวดใช้ซ้ำที่สเปซเอ็กซ์เป็นผู้บุกเบิก หลังจากที่ความพยายามครั้งแรกในเดือนม.ค.ล้มเหลว

ภารกิจนี้ทำให้ยานอวกาศแฝด EscaPADE ของนาซากลายเป็นสัมภาระทางวิทยาศาสตร์ชิ้นแรกที่บลูออริจินนำส่งขึ้นสู่อวกาศให้กับลูกค้า

ศูนย์ควบคุมยืนยันว่าจรวดท่อนบนของ New Glenn ได้ปล่อยยานอวกาศ EscaPADE เข้าสู่อวกาศได้สำเร็จ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางยาวนาน 22 เดือนสู่ดาวอังคาร

ยานอวกาศคู่ในภารกิจนี้มีชื่อว่า Blue และ Gold มีกำหนดถึงดาวอังคารในปี 2570 เพื่อเข้าสู่วงโคจรและศึกษา "สภาพอวกาศ" (Space Weather) หรือสภาพแวดล้อมในอวกาศรอบดาวอังคารเป็นเวลา 11 เดือน โดยจะวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ระหว่างลมสุริยะกับสนามแม่เหล็กของดาว เพื่อไขปริศนาว่าเหตุใดดาวอังคารจึงสูญเสียชั้นบรรยากาศและกลายเป็นดาวเคราะห์ที่แห้งแล้งเช่นในปัจจุบัน

เดิมที ภารกิจ EscaPADE (ย่อมาจาก Escape and Plasma Acceleration and Dynamics Explorers) มีกำหนดปล่อยในเดือนต.ค. 2567 แต่ล่าช้าเนื่องจากปัญหาในการพัฒนาจรวด New Glenn

อนึ่ง บลูออริจินก่อตั้งโดยเบซอสในปี 2543 ที่ผ่านมาเป็นที่รู้จักจากธุรกิจทัวร์อวกาศสำหรับมหาเศรษฐีด้วยจรวด New Shepard บลูออริจินได้ทุ่มงบหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนา New Glenn ให้เป็นจรวดขนส่งหนัก (heavy-lift) ที่เปรียบเสมือน "ม้างาน" หลักของบริษัทสำหรับส่งทั้งคนและสินค้าขึ้นสู่วงโคจร

จรวด New Glenn ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ จอห์น เกล็นน์ ชาวอเมริกันคนแรกที่โคจรรอบโลกนั้น มีแรงขับมากกว่าจรวด Falcon 9 ของสเปซเอ็กซ์ถึงสองเท่า และมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระมากกว่า

ข้อมูลระบุว่า NASA ใช้งบประมาณราว 55 ล้านดอลลาร์สำหรับภารกิจ EscaPADE และจ่ายค่าส่งจรวดให้กับบลูออริจินเป็นเงิน 18 ล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ