ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (1 พ.ค.) ว่า เขาจะเสนอชื่อไมค์ วอลท์ซ เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ (UN) หลังจากที่เพิ่งปลดพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ จากกรณีที่เขาเผลอเรอเชิญนักข่าวเข้ากลุ่มแชทส่วนตัวระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจนนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลอ่อนไหวด้านกลาโหม
ทรัมป์ยังเผยผ่านโซเชียลมีเดียอีกด้วยว่า มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ จะดำรงตำแหน่งรักษาการที่ปรึกษาความมั่นคงแทนวอลท์ซในช่วงเวลานี้ โดยวอลท์ซถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีคนแรกที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งในรัฐบาลทรัมป์ 2.0
"ไมค์ วอลท์ซ ทำงานอย่างหนักโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติก่อนเสมอ ผมรู้ดีว่า เขาจะทำแบบเดียวกันกับบทบาทใหม่ที่เขาได้รับ" ทรัมป์กล่าว โดยไม่ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการโยกย้ายตำแหน่งครั้งนี้แต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน วอลท์ซกล่าวว่า เขารู้สึก "เป็นเกียรติอย่างยิ่ง" ที่ยังคงได้รับใช้ปธน.ทรัมป์และสหรัฐฯ ต่อไป
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า วอลซ์ และอเล็กซ์ หว่อง รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยหว่องเป็นอดีตนักการทูตที่เคยทำหน้าที่ดูแลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
ก่อนหน้านี้ หลังชนะการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. ทรัมป์เคยกล่าวว่า เอลีส สเตฟานิก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากนิวยอร์ก จะเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำ UN แต่ได้พับแผนดังกล่าวไปเมื่อเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ มีรายงานว่า วอลท์ซได้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งทรัมป์เป็นประธานเมื่อวันพุธ (30 เม.ย.) หนึ่งวันหลังจากที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวครบ 100 วัน โดยวอลท์ซเป็นที่รู้จักจากจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีน และสนับสนุนการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรของสหรัฐฯ เช่น ญี่ปุ่น