ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศผ่านทรูธ โซเชียล (Truth Social) ในวันอาทิตย์ (4 พ.ค.) ว่า จะเรียกเก็บภาษีในอัตรา 100% กับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผลิตในต่างประเทศ โดยระบุว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐฯ กำลังจะตายลงอย่างรวดเร็ว จากข้อเสนอจูงใจที่ประเทศอื่น ๆ ใช้ดึงดูดผู้ผลิตภาพยนตร์อเมริกา
ประกาศดังกล่าวของทรัมป์เกิดขึ้นหลังจากที่เขาจุดชนวนสงครามการค้ากับจีนและกำหนดภาษีนำเข้ากับทั่วโลก ซึ่งสร้างความวุ่นวายในตลาด จนนำไปสู่ความวิตกกังวลว่าสหรัฐฯ จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทรัมป์ระบุผ่านโพสต์ว่า "นี่เป็นความพยายามร่วมกันของประเทศอื่น ๆ และถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ใช่แล้ว มันเป็นการส่งข้อความและโฆษณาชวนเชื่อ! เราต้องการให้ภาพยนตร์ถ่ายทำในอเมริกา อีกครั้ง!" พร้อมอ้างว่า ได้มอบอำนาจให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้ภาษีศุลกากรดังกล่าวทันทีเรียบร้อยแล้ว
ด้านโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ตอบรับโดยระบุผ่านโพสต์บนเอ็กซ์ (X) ว่า "เรากำลังดำเนินการ"
อย่างไรก็ตาม ทั้งลุตนิกและทรัมป์ต่างไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการบังคับใช้ภาษีดังกล่าว และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ความเคลื่อนไหวนี้มุ่งเป้าไปที่บริษัทผู้ผลิตต่างชาติหรืออเมริกาที่ผลิตภาพยนตร์ในต่างประเทศ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของทรัมป์ก่อนหน้านี้แล้ว โดยจีนได้ตอบสนองต่อการประกาศเรียกเก็บภาษีในเดือนเม.ย.ด้วยการลดโควตาภาพยนตร์สหรัฐฯ ที่อนุญาตให้เข้าฉายในประเทศได้