ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เมื่อวันพุธ (7 พ.ค.) กรณีที่อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีในซีเรีย โดยเตือนว่าการกระทำลักษณะนี้จะไม่สามารถรับประกัน "ความมั่นคงในระยะยาวของอิสราเอล" ได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปธน.มาครงได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับอาเหม็ด อัล-ชารา รักษาการผู้นำซีเรีย ณ ทำเนียบเอลีเซในกรุงปารีส
"สำหรับการทิ้งระเบิดและการรุกล้ำดินแดนนั้น ผมเห็นว่าเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่ดี การสร้างความมั่นคงให้ประเทศตนเองด้วยการละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศเพื่อนบ้านนั้น เป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ" ปธน.มาครงกล่าว "หนทางที่ถูกที่ควรนั้นคือการยกระดับความร่วมมือระหว่างกัน"
ความคิดเห็นของปธน.มาครงเกิดขึ้นภายหลังจากที่อิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายระลอกเมื่อช่วงเช้ามืดวันศุกร์ (2 พ.ค.) โดยมีเป้าหมายอยู่ที่บริเวณใกล้เคียงกับทำเนียบประธานาธิบดีซีเรียใจกลางกรุงดามัสกัส แรงระเบิดดังสนั่นได้ยินไปทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองหลวง นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าเครื่องบินของอิสราเอลได้บินปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเหนือน่านฟ้ากรุงดามัสกัสไม่นานหลังจากการโจมตีสิ้นสุดลง
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ของซีเรีย โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีชาวดรูซ (Druze) อาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ การปะทะกันระหว่างกลุ่มชาวดรูซกับกองกำลังที่ภักดีต่อรัฐบาลได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 100 รายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้ยิ่งกระตุ้นความกังวลว่าสถานการณ์ในประเทศจะยิ่งไร้เสถียรภาพมากขึ้น