บิล เกตส์ ให้คำมั่นว่า เขาจะบริจาคเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านมูลนิธิการกุศลของตนเองภายในปี 2588 พร้อมกันนี้ เขาได้วิจารณ์อีลอน มัสก์ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ว่ากำลังคร่าชีวิตเด็กที่ยากจนที่สุดในโลกด้วยการผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ หั่นงบประมาณให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ
เกตส์ มหาเศรษฐีวัย 69 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) กล่าวเมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) ว่า เขาได้เร่งรัดแผนการสละทรัพย์สมบัติเกือบทั้งหมดของตนเอง และจะปิดมูลนิธิในวันที่ 31 ธ.ค. 2588 ซึ่งเร็วกว่าที่เคยกำหนดไว้หลายปี
เกตส์ระบุว่า เขาเชื่อมั่นว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายสำคัญหลายประการของเขา เช่น การกำจัดโรคร้ายอย่างโปลิโอและมาลาเรีย การยุติการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ในกลุ่มสตรีและเด็ก รวมถึงการลดปัญหาความยากจนทั่วโลก
ปัจจุบัน เกตส์มีทรัพย์สินราว 1.08 แสนล้านดอลลาร์ และเขาคาดการณ์ว่ามูลนิธิของเขาจะใช้จ่ายเงินราว 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2588 โดยตัวเลขสุดท้ายขึ้นอยู่กับสภาพตลาดและอัตราเงินเฟ้อในอนาคต
เกตส์ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ (FT) ว่า "ภาพของชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกที่กำลังคร่าชีวิตเด็กที่ยากจนที่สุดในโลกนั้นไม่ใช่ภาพที่น่าดูเลย"
ทางด้านมัสก์ได้ตอบทวีตบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ที่อ้างอิงบทสัมภาษณ์ของเกตส์ที่ออกมาเตือนเรื่องการตัดลดงบประมาณช่วยเหลือของสหรัฐฯ ว่า "เกตส์เป็นจอมโกหกตัวยง"
มัสก์เป็นผู้กำกับดูแลการตัดลดงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยดำเนินการผ่านกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าโครงการต่าง ๆ ของ USAID ราว 80% จะถูกยกเลิก หลังจากที่ USAID ใช้จ่ายเงินทั่วโลกไปมากถึง 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2566