ทำเนียบนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ประกาศว่า คณะผู้แทนจากอิสราเอลเตรียมเดินทางไปยังกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ในวันนี้ (13 พ.ค.) เพื่อเจรจาข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซาฉบับใหม่
เนทันยาฮูระบุในแถลงการณ์ว่า การเจรจาจะมีขึ้นในระหว่างที่การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลอิสราเอลในการเดินหน้ากดดันทางการทหารอย่างต่อเนื่องระหว่างที่มีการพูดคุย
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นภายหลังการประชุม ณ นครเยรูซาเลม ระหว่างเนทันยาฮู กับสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษประจำตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และไมค์ ฮัคคาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอล
ทำเนียบนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูระบุว่า การประชุมดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่การผลักดันข้อตกลงปล่อยตัวประกันก่อนที่อิสราเอลจะขยายปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาตามที่วางแผนไว้ ซึ่งรวมถึงการยกระดับการจู่โจม การเข้าควบคุมและยึดครองพื้นที่ต่าง ๆ ในกาซา และการขับไล่ประชากรจากฉนวนกาซาไปยังพื้นที่ขนาดเล็กทางตอนใต้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เนทันยาฮูได้โทรศัพท์พูดคุยกับทรัมป์ภายหลังการประชุม และขอบคุณที่ให้การช่วยเหลือเอดาน อเล็กซานเดอร์ ตัวประกันชาวสหรัฐฯ เชื้อสายอิสราเอล ซึ่งกลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวออกมาในวันจันทร์ (12 พ.ค.)
สหรัฐฯ แจ้งต่ออิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ว่า กลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวอเล็กซานเดอร์ ซึ่งเป็นทหารอเมริกันในกองทัพอิสราเอลที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ในปฏิบัติการบุกโจมตีดินแดนทางตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งทำให้มีผู้คนถูกลักพาตัวไป 251 ราย และเสียชีวิตอีกประมาณ 1,200 ราย
ทั้งนี้ อเล็กซานเดอร์เป็นตัวประกันสัญชาติอเมริกันคนสุดท้ายที่ยังรอดชีวิต จากตัวประกัน 59 คนที่ยังหลงเหลือในฉนวนกาซา ซึ่งอิสราเอลเชื่อว่าอย่างน้อย 21 คนในจำนวนนี้ยังมีชีวิตอยู่
ข้อมูลจากสาธารณสุขของกาซาระบุว่า นับตั้งแต่เดือนต.ค. 2566 การโจมตีทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 52,862 ราย