สำนักข่าวซินหัวรายงานในวันนี้ (21 พ.ค.) โดยอ้างข้อมูลจากสื่อสหรัฐฯ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เริ่มเดินหน้าผลักดันผู้อพยพชาวเมียนมาและเวียดนามไปยังประเทศซูดานใต้ แม้มีคำสั่งศาลห้ามการส่งตัวไปยังประเทศที่สามก็ตาม โดยเรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านเอกสารที่ทนายความของกลุ่มผู้อพยพยื่นต่อศาล
รายงานระบุว่า กลุ่มผู้ที่ถูกเนรเทศจากหลายประเทศได้ให้การต่อศาลว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ "อาจส่งตัว" พวกเขาไปยังทวีปแอฟริกา
เนื่องจากบางประเทศปฏิเสธที่จะรับผู้ถูกเนรเทศจากสหรัฐฯ รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จึงได้ทำข้อตกลงกับชาติอื่น ๆ เช่น ปานามา ให้รับคนเหล่านี้แทน
เอกสารศาลยังระบุว่า มีอีเมลจากเจ้าหน้าที่ตม.ในรัฐเท็กซัส ยืนยันการเนรเทศผู้อพยพชาวเมียนมารายหนึ่ง ชายผู้นี้ซึ่งไม่สันทัดภาษาอังกฤษ กลับได้รับแจ้งเรื่องการส่งตัวเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ทนายความของเขาเปิดเผยว่า เพิ่งทราบเรื่องการเนรเทศเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเครื่องบินจะออกเดินทาง
ขณะเดียวกัน ทนายความจาก "กลุ่มพันธมิตรเพื่อการฟ้องร้องคดีคนเข้าเมืองแห่งชาติ" (National Immigration Litigation Alliance) เปิดเผยว่า มีหญิงรายหนึ่งแจ้งว่า สามีชาวเวียดนามของเธอเป็นหนึ่งในกลุ่มคนประมาณ 10 รายที่ถูกส่งตัวขึ้นเครื่องบินไปยังทวีปแอฟริกาเมื่อเช้าวันอังคาร (20 พ.ค.)
กลุ่มทนายความชี้ว่า การเนรเทศในลักษณะนี้ถือเป็นการละเมิดคำสั่งศาลที่กำหนดให้บุคคลต้องได้รับ "โอกาสสำคัญ" ในการโต้แย้งว่า การถูกส่งตัวไปยังประเทศอื่นที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของตนนั้น จะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของตน