ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธ (28 พ.ค.) ว่า เขาได้เตือนเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ไม่ให้ทำอะไรที่อาจเป็นภัยต่อการเจรจาที่รัฐบาลทรัมป์กำลังเดินหน้าอยู่กับอิหร่าน เพื่อหารือข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่
หนังสือพิมพ์เดอะฮิลล์รายงานว่า เมื่อทรัมป์ถูกถามว่า เขาได้เตือนเนทันยาฮูเกี่ยวกับการโจมตีอิหร่านหรือไม่ เขาตอบว่า "เอาจริง ๆ นะ ใช่ ผมเตือนไปแล้ว" เพื่อไม่ให้ขัดขวางการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กับอิหร่าน
ทรัมป์เสริมว่า "ผมแค่บอกไปว่า ผมไม่คิดว่ามันเหมาะสม ตอนนี้เรากำลังคุยกันได้ดีมาก ๆ และผมไม่คิดว่าตอนนี้เหมาะสม" ซึ่งสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แค่โทรศัพท์สายเดียวก็เปลี่ยนสถานการณ์ได้ "ตอนนี้ผมคิดว่าพวกเขาอยากได้ข้อตกลง และถ้าเราทำข้อตกลงได้ ผมจะช่วยชีวิตคนได้อีกเยอะ"
รัฐมนตรีต่างประเทศโอมาน ซึ่งเป็นคนกลางในการเจรจาดังกล่าว ระบุว่า การเจรจาทางอ้อมรอบที่ 5 ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ สิ้นสุดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในกรุงโรมของอิตาลี โดยมี "ความคืบหน้าอยู่บ้าง แต่ยังไม่สรุปผล"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเจรจารอบล่าสุดเกิดขึ้นท่ามกลางความเห็นที่ยังคงแตกต่างกันระหว่างสองฝ่ายเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยความตึงเครียดระหว่างสองประเทศนี้มีประเด็นหลักอยู่ที่การเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ย้ำข้อเรียกร้องให้อิหร่านหยุดกิจกรรมการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมทั้งหมด แต่อิหร่านปฏิเสธแนวคิด "เสริมสมรรถนะเป็นศูนย์" และเรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานข่าวว่า อิสราเอลเคยมีแผนจะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างเร็วที่สุดในเดือนนี้ แต่ถูกทรัมป์ห้ามไว้ เพราะต้องการจะเจรจากับอิหร่านต่อไป