ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า เขาจะไม่เร่งรีบทำข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ หากข้อตกลงนั้นอาจกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ
อิชิบะแถลงต่อสื่อมวลชนในวันนี้ (12 มิ.ย.) ว่า หากมีความคืบหน้าก่อนที่ตนจะพบกับทรัมป์ ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่สิ่งสำคัญคือการบรรลุข้อตกลงที่เอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย พร้อมย้ำว่าจะไม่ประนีประนอมผลประโยชน์ของญี่ปุ่นเพื่อแลกกับการบรรลุข้อตกลงอย่างเร่งรีบ
ถ้อยแถลงของอิชิบะมีขึ้นหลังการหารือร่วมกับบรรดาผู้นำพรรคฝ่ายค้านเกี่ยวกับประเด็นภาษีนำเข้า โดยเซอิจิ มาเอฮาระ หัวหน้าร่วมพรรคพัฒนานวัตกรรมญี่ปุ่น เปิดเผยว่าทั้งสองประเทศยังมีจุดยืนที่ห่างกันมาก และไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปในเร็ววัน พร้อมเสริมว่า อิชิบะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดความคืบหน้าของการเจรจา และยังไม่สามารถระบุกรอบเวลาได้ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงเมื่อใด
คาดว่าอิชิบะมีกำหนดพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ นอกรอบการประชุมผู้นำกลุ่ม G7 ที่ประเทศแคนาดาในวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.) อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดวันและเวลาอย่างเป็นทางการสำหรับการหารือแบบทวิภาคี
รายงานระบุว่า การประชุมสุดยอด G7 ครั้งนี้ถูกจับตามองว่าอาจเป็นจังหวะสำคัญสำหรับญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ในการบรรลุข้อตกลงบางประการ หลังจากการเจรจาล่วงเลยมานานถึง 2 เดือน หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใด ๆ ได้ อาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเมืองของอิชิบะก่อนการเลือกตั้งสภาสูงของญี่ปุ่นในเดือนหน้า เนื่องจากภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ อาจฉุดเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
ด้านเรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาด้านภาษีศุลกากรของญี่ปุ่น เตรียมหารือกับคณะรัฐมนตรีสหรัฐฯ รอบที่ 6 ในวันศุกร์นี้ (13 มิ.ย.) ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะหาข้อตกลงร่วม ก่อนการประชุมกลุ่ม G7 จะเปิดฉากขึ้น ซึ่งจะเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันที่อากาซาวะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน
การระงับการเรียกเก็บภาษี ซึ่งมีกำหนดจะสิ้นสุดลงในวันที่ 8 ก.ค.นี้ จะมีผลบังคับใช้เฉพาะบางประเทศที่อยู่ภายใต้นโยบายภาษีตอบโต้เท่านั้น ซึ่งครอบคลุมคู่ค้าราว 60 ราย ที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก และไม่มีผลต่อภาษีขั้นพื้นฐานในอัตรา 10% ที่เรียกเก็บจากคู่ค้าทั่วโลก